เวทีมิตรสหาย...าระหนึ่งธันวา......“นิราศภูบรรทัด”

โดย ส.สมใจ

 

จำจากจรรอนแรมป่าในครานั้น
ยังมิทันกราบลามารดาท่าน
เก็บข้าวของเครื่องใช้หลายรายการ
ออกจากบ้านตอนเที่ยงเพียงลำพัง
ลัดริมทุ่งมุ่งหน้าเขตป่าเขา
ถุงผ้าเก่าของใช้สะพายหลัง
การเดินเท้าก้าวย่างอย่างระวัง
อนิจจังวัยละอ่อนจำจรลา
ถึงค่ายพักเขตงานริมธารน้ำ
จวนจะค่ำมืดลงกลางพงผา
หริ่งเรไรร่ำร้องก้องพนา
กินมาม่าต้มยำเพิ่มกำลัง
ป่วยอยู่ค่ายเขตงานนานพอได้
ต้องอยู่ให้น้ำเกลือเหลือแต่หนัง
เกือบไม่รอดหยอดยาหมอพอประทัง
จนกระทั่งค่อยบรรเทาทุเลาลง
ถึงเขาพันธุรัตน์ที่นัดหมาย
ทางขึ้นค่ายเขตสี่ไม่มีหลง
คุณสมเกียรตินำทางเดินกลางดง
เห็นลุงสงกับป้าสายทำไร่มัน
ถึงค่ายขุดสุดลำเค็ญเย็นทุกช่วง
น้ำค้างร่วงยามเช้ายิ่งหนาวสั่น
นอนขดคู้อยู่เขตสี่ไม่กี่วัน
ต้องจากกันอีกครั้งยังจดจำ
ออกเดินทางกันต่อไม่ท้อถอย
ฝนโปรยปรอยพรมไพรให้ชุ่มฉ่ำ
ความลำบากยากแค้นแสนระกำ
ไม่อาจทำให้ความหวังต้องพังลง
เดินผ่านค่ายไม้ไผ่ใครก็ว่า
ขนาดหมายังต้องร้องเสียงหลง
หนาวรุกรานเรื้อรังยังดำรง
ทางขนส่งลำเลียงเสบียงกรัง
ผ่านเขาหลักปักเขตวิเศษสม
หินก้อนกลมผุดงอกเหมือนตอกฝัง
ข้ามภูผาฝ่าดงทากลงฟากตรัง
ด้วยพลังเปี่ยมล้นบนเส้นทาง
ราวทุ่มครึ่งถึงเขตงานบ้านลำโท่
แม่คุณโสให้พักพลจนรุ่งสาง
ก่อนลาจากฝากเป็นห่วงช่วงเดินทาง
พระคุณนางสหายใหม่ไม่ลืมเลือน
ถึงลำแคลงแรงปลายแทบไม่เหลือ
แต่ทำเพื่อมวลชนทนขับเคลื่อน
ความลำบากมากมายหมายมาเยือน
ไม่สะเทือนจิตใจให้พะวง
การเดินทางอันยาวยืดจนมืดค่ำ
ควนไม้ดำคือหมายหมุดจุดประสงค์
ใต้ร่มเงาเขาป่าพนาดง
คืนนี้คงหลับใหลกลางไพรวัลย์
รุ่งอรุณอุ่นละไมในยามนี้
ควนเณรมีเขาไม้แก้วแว่วไก่ขัน
ข้ามลำธารผ่านเขาตูเขารู้กัน
เส้นทางนั้นไปเขตสองของค่ายพล
บ้านสามหนำลำเสาอันเก่าร้าง
รอยคนสร้างปลูกทิ้งยิ่งฉงน
เสียงเล่าลือคือไข้ป่าคร่าผู้คน
ต้องทุกข์ทนไร้หมอมาพยาบาล
เมื่อขบวนเคลื่อนมาถึงซึ่งเขตสอง
อยู่ริมคลองโต๊ะหังที่ตั้งฐาน
เป็นค่ายใหม่ใหญ่โตมโหฬาร
มีทหารหญิงชายอยู่หลายคน
เป็นทหารปลดแอกแรกเข้าใหม่
เขาส่งไปเข้าโรงเรียนเพียรฝึกฝน
เป็นนักสู้ภูบรรทัดในบัดดล
คือตัวตนคือประวัติชัดเจนเอย.ฯ

 

โปรดติดตามและมีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท.  โปรดคลิ๊ก