การล่มสลายของระบอบเผด็จการอัสซาดในซีเรีย
โดย…รุ่งอรุณ


เพียง 12 วันของการรุกคืบของกลุ่มต่อต้านติดอาวุธ ฮายัท ทาเรียร์ อัลชาม (Hayat Tahrir al-Sham – HTS) สามารถโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการทหารเบ็ดเสร็จของประธานาธิบดีอัลอัสซาด​(Bassar al-Assad) อย่างเด็ดขาด หลังจากตระกูลอัสซาดเผด็จอำนาจมายาวนานถึง 54 ปี ประธานาธิบดีอัลอัสซาดหลบหนีลี้ภัยไปอยู่รัสเซียเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2024.
ประชาชนซีเรียออกมาเฉลิมฉลองฟ้าใหม่อันสดใส ความมืดมัวหวาดกลัวไร้สิทธิ์ไร้เสรีถูกจับถูกทรมานถูกกักขังถูกเข่นฆ่าสูญสลายไป ความหวังใหม่แห่งการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติล่องลอยอยู่ทั่วประเทศ.
ผู้อ่านนึกถึงเขมรแดงไหมครับที่ล่มสลายภายใน 3 เดือนภายใต้การรุกรานของกองทัพเวียดนาม ประชาชนเขมรเฉลิมฉลองยกย่องสนับสนุนกองทัพเวียดนามที่ไปปลดปล่อยเขมรจากการปกครองอันโหดร้ายทารุณของกลุ่มเขมรแดง.
ทำไมประชาชนซีเรียจึงดีอกดีใจเหมือนเกิดใหม่ คาดหวังประเทศซีเรียใหม่ ?
ตระกูลอัสซาดปกครองซีเรียมาตั้งแต่สมัยพ่อ และส่งมอบอำนาจต่ออัลอัสซาดต่อเนื่องถึง 54 ปี แต่เรื่องราวเลวร้ายลงอย่างรุนแรง เมื่อเกิดการเคลื่อนไหวอาหรับสปริงในปี 2011 ที่ขบวนการต่อต้านของประชาชนได้โค่นล้มรัฐบาลลิเบีย และอีจิปต์ ต่อเนื่องไปยังประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลาง.
ประธานาธิบดีอัสซาดจึงได้กระชับอำนาจหนักขึ้น ใช้กำลังทหารตำรวจจับกุมผู้ต่อต้านทรมานสังหารไม่ละเว้นไม่มีเหตุผลไม่มีการยึดหลักนิติธรรม ประชาชนที่ไม่ยอมรับจึงรวมกลุ่มจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลอัลอัสซาด.
ระบอบการปกครองและการเมืองภายในซีเรีย
การล่มสลายอันรวดเร็วของระบอบอัสชาดเกิดจาก
1. ความโหดร้ายผิดมนุษย์ของประธานาธิบดีอัลอัสซาดในการเข่นฆ่าสังหารประชาชนของตน ขนาดกล้าทิ้งระเบิดเคมีที่มีสารซารินสังหารประชาชนมากกว่าหนึ่งพันคน จับฝ่ายต่อต้านนับหมื่นคนขังคุกทรมานประหัตประหารชีวิต 13 ปีหลัง 2011 ประชาชนซีเรียต้องอพยพย้ายถิ่นฐานราว 13 ล้านคน ออกนอกประเทศราว 4.9 ล้านคน ส่วนใหญ่ย้ายไปอาศัยในตุรกี 3 ล้านกว่าคน, เลบานอน 7 แสนกว่าคน และจอร์แดนอีกราว 6 แสนกว่าคน อีก 7.4 ล้านคน ต้องอพยพหลบหนีย้ายไปย้ายมาในประเทศ.
2. ความเน่าเฟะและคอรัปชั่นฉ้อฉลของประธานาธิบดีอัลอัสซาด และกองทัพซีเรีย เมื่อหัวส่ายหางย่อมกระดิกตาม กองทัพซีเรียขาดขวัญกำลังใจสู้รบ ขาดผู้นำที่เข้มแข็งมีแต่ผู้นำที่ฉวยโอกาสคดโกง ที่ผ่านมากองทัพซีเรียมีบทบาทสู้รบกับกลุ่มต่อต้านติดอาวุธไม่มาก แต่เป็นกองกำลังฮิซบอลเลาะห์ภายใต้การสนับสนุนของอิหร่านที่ช่วยสู้รบแทน และกองทัพรัสเซียที่ทิ้งระเบิดใส่กลุ่มต่อต้านอย่างหนัก.
3. ประเทศซีเรียแตกหลายเสี่ยง มีกองกำลังต่อต้านติดอาวุธแบ่งกันควบคุมพื้นที่กระจายไปทั่วประเทศ เช่นกลุ่มที่ยึดอำนาจรัฐได้ก่อนกลุ่มอื่น คือกลุ่มฮายัททาเรียร์อัลชาม (เฮซทีเอส) ภายใต้การนำของนายอาบูโมฮัมเหม็ด อัลจอร์ลานี (Mohammed al-Jawlani) มีฐานที่มั่นทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือแถวเมืองอิดิบ (Idib) บุกโจมตีเมือง อเล็บโป (Aleppo), ฮามา (Hama) และฮอม (Homs) ก่อนยึดกรุงดามัสกัสเมืองหลวง, กลุ่มกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (Syrian Democratic Forces – SDF) ยึดภาคเหนือและภาคตะวันออก, กลุ่มกองทัพแห่งชาติซีเรีย (Syrian National Army) ยึดครองภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือติดกับตุรกี, กลุ่มไอซิส ฯลฯ และกลุ่มเล็กอีกราว 4 – 5 กองกำลัง.
4. แต่ละกองกำลังติดอาวุธมีประเทศมหาอำนาจ และประเทศใหญ่ในภูมิภาคหนุนหลังทั้งด้านอาวุธยุทโธปกรณ์และเงินทุน เช่นสหรัฐอเมริกาสนับสนุนกลุ่มเอสดีเอฟ, สนับสนุนกองกำลังชาวเคิร์กที่
กระจายอยู่ในภูมิภาคอื่นๆ รวมทั้งกองทัพซีเรียอิสระ (Free Syrian Army) และกลุ่มกบฎดรุซ (Druze) ที่ยึดครองอยู่รอบกรุงดามัสกัส, ตุรกีสนับสนุนกลุ่มกองทัพแห่งชาติซีเรีย, กลุ่มเฮซทีเอสรับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย.
5. มหาอำนาจใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกามีฐานทัพอยู่ะหว่างเขตรอยต่อของซีเรีย, จอร์แดน และอิรัค ได้เข้าแทรกแซงซีเรียตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีโอบามา รัสเซียมีฐานทัพเรือ 2 แห่งบริเวณริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของซีเรีย ได้ส่งเครื่องบินไปช่วยอัลอัสซาดทิ้งระเบิดใส่กองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ อิหร่านส่งอาวุธและกำลังทหารช่วยสู้รบ ตุรกีสนับสนุนกองทัพแห่งชาติซีเรียซึ่งเข้มแข็งและมุ่งหวังแบ่งปันอำนาจเช่นกัน.
ทำไมหรือ ?
ซีเรียเป็นประเทศหนึ่งที่มั่งคั่งร่ำรวยทรัพยากรใต้ดินอย่างน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เมืองอเลปโปที่มีข่าวการสู้รบแย่งชิงพื้นที่กันมาหลายปี เป็นแหล่งใหญ่ที่สุดของน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ สหรัฐอเมริกาต่อต้านอัลอัสซาด เพราะอัลอัสซาดมีนโยบายเป็นอิสระหันไปเข้ากับรัสเซียและอิหร่าน สหรัฐจึงสนับสนุนกองกำลังต่าง ๆ โค่นล้มอัลอัสซาด.
สถานการณ์ปัจจุบัน
ข่าวว่าประธานาธิบดีอัลอัสซาดลาออกและหลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมมอบหมายอำนาจให้นายกรัฐมนตรีอัลจาลาลี (Mohammed Ghazi al-Jalali) รักษาการเพื่อถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ.
กองกำลังติดอาวุธเฮซทีเอสของนายอัลจอร์ลานีเป็นกลุ่มแรกที่ยึดกรุงดามัสกัสได้สำเร็จ และมอบหมายให้นายกรัฐมนตรีอัลจาลาลี บริหารประเทศต่อไป แต่อีกแหล่งข่าวหนึ่งกล่าวว่าอัลอัสซาดต้องการมอบอำนาจต่อให้รัฐบาลแห่งความอยู่รอดที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน นำโดยนายโมฮัมเหม็ด อัลบาเซียร์ (Mohammed al-Bashir) ที่ควบคุมอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย เป็นนายกรัฐมนตรีช่วงเปลี่ยนผ่านอำนาจ.
ข่าวล่าสุดแจ้งว่าเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพแห่งชาติซีเรียโดยการสนับสนุนของตุรกี ได้เปิดฉากสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ เพื่อยึดครองภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย.
ทันทีที่อัลอัสซาดหลบหนี นายกรัฐมนตรีอิสราเอลนายเนทันยาฮูได้สั่งให้กองทัพอิสราเอลรุกคืบบนที่ราบสูงโกลันเข้าไปอีก 14 กิโลเมตร ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของอิสราเอล คือไม่ต้องการให้กองกำลังติดอาวุธกลุ่มต่าง ๆ กลับมาฟื้นอำนาจปกครองคุกคามชายแดนอิสราเอล ทั้งที่ก่อนหน้านี้ในสงครามปี 1967 อิสราเอลยึดครองที่ราบสูงโกลันของซีเรียไปแล้วถึง 70 % บุกรุกรานเข้าไปอีก 14 กิโลเมตร เท่ากับยึดครองที่ราบสูงโกลันไปทั้งหมด เมื่อปี 1981 อิสราเอลประกาศผนวกดินแดนที่ราบสูงโกลันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอิสราเอลไปแล้ว.
ควบคู่ไปกับการบุกยึดครองที่ราบสูงโกลัน กองทัพอิสราเอลได้โจมตี 3 สนามบินใหญ่ และโครงสร้างยุทธศาสตร์ทางการทหารของซีเรีย พุ่งเป้าหมาย 250 แห่ง ทำลายเครื่องบิน, เรือรบ, เฮลิคอปเตอร์, คลังอาวุธ ฯลฯ
สหรัฐอเมริกาส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีมากกว่า 75 เที่ยวบิน มุ่งทำลายฐานค่ายทหารของกลุ่มไอซิส.
รัสเซียไม่ได้เข้าแทรกแซงโดยตรง ทั้งที่มีฐานทัพเรือ 2 แห่ง ที่เมืองลาทาเกีย (Latakia) และทาทุส (Tartous) ส่วนอิหร่านได้ถอนทหารออกจากซีเรียทั้งหมด.
ทั่วโลกกำลังคาดหวังให้ซีเรียเปลี่ยนผ่านระบอบเผด็จการสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพ ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ และประชาธิปไตยอย่างสันติ แต่ประเทศมหาอำนาจกลับฉวยโอกาสยึดครองดินแดนและทำลายล้างกลุ่มปฏิปักษ์.
เวลานี้ กองกำลังติดอาวุธฝ่ายต่าง ๆ กำลังเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ กลุ่มเฮซทีเอสของนายอัลจอร์ลานีได้ลดท่าทีที่แข็งกร้าวลงมาก อัลจอร์ลานีใช้ความนุ่มนวลสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ สนับสนุนนายกรัฐมนตรีอัลจาลาลีรักษาการ แต่ฝ่ายตุรกีสนับสนุนกองทัพแห่งชาติซีเรีย และนายอัลบาเซียร์ สหรัฐฯและยิวรุกคืบกินดินแดนเป็นหลัก รัสเซียและอิหร่านมีท่าทีสนับสนุนนโยบายของนายอัลจอร์ลานี.
การล่มสลายของระบอบเผด็จการอัลอัสซาดจะส่งผลสู่การโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการอื่น ๆ ในตะวันออกกลางหรือไม่ ?
ทราบกันดีว่า ประเทศส่วนใหญ่ในตะวันออกกลางล้วนปกครองด้วยระบอบเผด็จการโดยตระกูลใหญ่ไม่กี่ตระกูล และมีกองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลดำรงอยู่ในทุกประเทศ เวลานี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเหตุการณ์ในซีเรียจะเกิดกับประเทศอื่นหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการเมืองการปกครองในประเทศ และความกินอยู่ของประชาชน เป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้ขาดว่ารัฐบาลเผด็จการจะยังดำรงอยู่ต่อไปได้หรือไม่ ?

.

สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท.  โปรดคลิ๊ก