ข่าวการลดทอนอำนาจสีจิ้นผิง

สัปดาห์ที่ผ่านมา  มีข่าวต่างประเทศที่สร้างความตื่นตะลึงแก่ชาวโลกว่า  ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ถูกรัฐประหารลดทอนอำนาจ  โดยนายพลจางโหย่วเซี้ย  ผู้นำอันดับสองในคณะกรรมการทหารกลางของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน  และหนึ่งในสมาชิกกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (พคจ.).
อนุสนธิข่าวมาจากการประชุมขยายวงของกรมการเมือง พคจ. ช่วงปลายเดือนมิถุนายน  2568  และมอบหมายให้สีจิ้นผิงประกาศจัดตั้ง “คณะประสานงานและตัดสินใจส่วนกลาง”  ของ พคจ.  ในวันที่  30  มิถุนายน  2568  ซึ่งจะเป็นองค์กรสูงสุดในการกำหนดนโยบายของรัฐ วางแผนและรับมือสถานการณ์ที่เป็นจริงทางสากล ซึ่งพัฒนาแหลมคมขึ้น  โดยนักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่ามีนัยแฝงเร้นที่มุ่งควบคุมอำนาจและการทำงานของสีจิ้นผิง  แม้จะยังยอมให้สีจิ้นผิงเป็นประธาน.
ตามมาด้วยข่าวว่าสีจิ้นผิงและภรรยาพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ โดยมีอดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์  นายหม่าซิงรุ่ย เป็นคนวางแผนพาหนีไปยังคาซัคสถาน  แต่ถูกจับได้เสียก่อน  รายละเอียดของข่าวเหมือนกับดูหนังจารกรรมประเภทเจมส์บอนด์.
ข่าวนี้มีมูลจริงเท็จเพียงใด  ?
หลายท่านแบ่งรับแบ่งสู้ทำนองไม่มีควัน  ย่อมไร้ไฟ
เรามาวิเคราะห์ร่วมกันว่า ข่าวนี้น่าเชื่อถือหรือไม่  อย่างไร  ?
1. ผู้เผยแพร่ข่าวนี้คนแรกน่าจะเป็นนางเล่ย ในรายการ Lei’s  Real  Talk  กระจายไปทั่วสื่อออนไลน์ข่าวว่านางเล่ยเป็นนักศึกษาจีนคนหนึ่งที่ร่วมในเหตุการณ์เทียนอันเหมิน และหลบหนีลี้ภัยไปยังสหรัฐอเมริกา  มีช่องรายการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในจีนชื่อ  Lei’s  Real  Talk.
2. ไม่มีสำนักข่าวต่างประเทศอื่น ๆ  รายงานเผยแพร่ข่าวข้างต้น.
3. สีจิ้นผิงยังออกงานปรากฏตัวตามปกติ  วันที่  1  กรกฎาคม  2568  วันครบรอบกำเนิด  พคจ.  104 ปี  สีจิ้นผิงได้กล่าวในที่ประชุมกรมการเมือง เร่งรัดผลักดันการแก้ปัญหาทุจริตประพฤติมิชอบ สร้างกระบวนการที่ “ชัดเจน  โปร่งใส  และสามารถสืบสาวที่มาที่ไปได้”   อำนาจทุกอย่างมาจากประชาชน จึงต้องเคารพประชาชน  เคารพพรรค  เคารพกฏหมาย  และระเบียบวินัย.
หลังจากนั้น  สีจิ้นผิงไปเยือนมณฑลส่านซี  และกลับปักกิ่งไปต้อนรับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย.
4. ระเบียบปฏิบัติของ พคจ.  ที่ผ่านมา  หากผู้นำคนใดถูกปลดจากตำแหน่งอำนาจ  เขาจะสูญหายไปจากสื่อสาธารณะ  ไม่ปรากฏรูป  หรือกิจกรรมอื่นใด  หากกระทำผิดพลาดร้ายแรง  ก็จะลบรูปภาพในอดีตของเขาออกจากสื่อต่าง ๆ โดยสิ้นเชิง  แต่สีจิ้นผิงยังปรากฏตัวในฐานะเลขาธิการใหญ่ของ พคจ.  และประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน.
5. ในรอบปีที่ผ่านมา  ไม่มีข่าวความขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองในหมู่คณะกรรมการกรมการเมือง และคณะกรรมการกลางของ พคจ.  ไม่มีข่าวความผิดพลาดเสียหายร้ายแรงของนโยบายเศรษฐกิจ  การเมือง และสังคม   ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนตัวผู้นำ  พคจ.
6. โครงสร้างการจัดตั้งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน  มีลักษณะแข็งแกร่ง  มั่นคง และมีเสถียรภาพ  เริ่มจากสมาชิก พคจ. จำนวน 100.27  ล้านคน ในสิ้นปี  2524  ตั้งแต่ระดับล่างสุด เช่นหมู่บ้าน  หรือโรงงาน หรือสายถนน  เลือกผู้นำระดับล่าง สู่ระดับตำบล  อำเภอ  เมือง  นคร  เขตปกครองตนเอง เป็นต้น  จนถึงระดับผู้แทนที่เข้าร่วมประชุมสมัชชาพรรคตามวาระ  5  ปี  จำนวน  2,200  กว่าคน  เพื่อเลือกสมาชิกคณะกรรมการกลาง  300  กว่าคน  สมาชิกคณะกรรมการกลางเลือกสมาชิกกรมการเมือง  24  คน และสมาชิกกรมการเมือง  24  คน  เลือกกรรมการกรมการเมืองประจำ  7  คน  รับผิดชอบงานประจำของพรรค  และถือเป็นองค์กรทรงอำนาจสูงสุด  มีเลขาธิการพรรคเป็นผู้นำ  ซึ่งเวลานี้คือสีจิ้นผิง.
การเลือกเลื่อนขึ้นสู่ตำแหน่งในแต่ละระดับ จะพิสูจน์กันด้วยผลงานความสามารถ ความรับผิดชอบในตำแหน่งต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมาย และความสำเร็จของการนำงาน.
7. หลักสำคัญยิ่งประการหนึ่งของ พคจ.  คือพรรคจะต้องนำกองทัพอย่างสมบูรณ์  กองทัพต้องขึ้นต่อพรรคอย่างไม่มีเงื่อนไข  โดยทั่วไป  เลขาธิการพรรคจะควบตำแหน่งประธานคณะกรรมการทหารกลาง  ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดฝ่ายทหาร  ยกเว้นสมัยเติ้งเสี่ยวผิงที่ไม่ยอมรับตำแหน่งอื่นใด  นอกจากประธานคณะกรรมการทหารกลาง.
เมื่อกองทัพอยู่ภายใต้การนำของ พคจ. อย่างสมบูรณ์  นายพลทหารก็ต้องขึ้นกับกรมการเมือง  ขึ้นกับเลขาธิการพรรคอย่างไม่มีเงื่อนไข  ไม่สามารถสร้างอำนาจอิสระแข่งขันกับอำนาจทางการเมืองของกรมการเมือง และเลขาธิการใหญ่ของพรรค กล่าวโดยสรุปคือไม่มีสิทธิ์แข็งข้อ หรือใช้กำลังอาวุธทำรัฐประหารแต่อย่างใด.
พิจารณาจากเหตุผลข้างต้น  7  ประการ  จึงเชื่อได้ว่าข่าวของนางเล่ยเป็นการกุข่าว  จับแพะชนแกะ
เพื่อสร้างความเสื่อมเสียแก่ พคจ.  และสร้างกระแสความฮือฮาแก่รายการของเธอ Lei’s  Real  Talk.

 

สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท.  โปรดคลิ๊ก  

 

รำ