สหรัฐเผยแพร่เอกสาร ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ 2025 (National Security Strategy – NSS) เกี่ยวกับจีน
สรุปความโดย อจ. กมล กมลตระกูล
ข่าว ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2568 สหรัฐประกาศอย่างเป็นทางการว่า นโยบาย “เอื้อมมือเข้าหาจีน” ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา “ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง” ความหวังเดิมที่ว่า “แค่เปิดตลาดให้จีน ก็จะทำให้จีนเข้าสู่ระบบกติกาสากล” ไม่เคยเกิดขึ้นจริง ตรงกันข้าม จีนกลับ “ร่ำรวย แข็งแกร่งขึ้น และใช้พลังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ไม่ใช่ในทิศทางที่สหรัฐต้องการ” นี่เป็นครั้งแรกที่สหรัฐเขียนปฏิเสธแนวคิดหลักของยุคหลังสงครามเย็นลงในเอกสารยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการ
เอกสารชี้ว่า อินโด–แปซิฟิกคือสมรภูมิสำคัญของศตวรรษหน้า และจีนคือคู่แข่งหลักที่สุด ตั้งแต่โครงสร้างเศรษฐกิจ ห่วงโซ่อุปทาน นโยบายอุดหนุนอุตสาหกรรม ไปจนถึงระบบการส่งออก จีนถูกระบุว่าเป็น “ภัยคุกคามต่อความเป็นอิสระของเศรษฐกิจสหรัฐ”
NSS ระบุว่า
• จีนกำลังสร้างระบบการผลิตใหม่ในประเทศรายได้ต่ำ และใช้ “การส่งออกผ่านประเทศที่สาม” (เจาะจงเอ่ยชื่อเม็กซิโก) เพื่อเลี่ยงภาษีสหรัฐ
• ระบบอุดหนุนอุตสาหกรรมและการขยายเทคโนโลยีของจีน เป็น “ความท้าทายเชิงระบบ” ต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
ดังนั้น สหรัฐเสนอให้ “รีเซ็ตความสัมพันธ์จีน–สหรัฐ” ด้วยหลักการ ต่างตอบแทน + เป็นธรรม ใช้ภาษี กติกา และเครือข่ายพันธมิตร สร้างห่วงโซ่อุปทานใหม่ และชี้ว่าการค้ากับจีนควรจำกัดอยู่ในสินค้าที่ไม่อ่อนไหว ส่วนอุตสาหกรรมแกนกลางต้องดึงกลับสหรัฐ
เป็นครั้งแรกที่เอกสารยุทธศาสตร์ของสหรัฐจัดทำ “บัญชีรายการพฤติกรรมจีนที่ต้องยุติ” เช่น
• การอุดหนุนเชิงผูกขาด
• การค้าไม่เป็นธ • การขโมยทรัพย์สินทางปัญญา
• ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทาน
• ความพยายามผูกขาดแร่หายาก
• การส่งออกสารตั้งต้นเฟนทานิล
• ปฏิบัติการโน้มน้าว/แทรกแซงในต่างประเทศ และการบิดเบือนทางวัฒนธรรม
ถ้อยคำในรายงานนี้ถือว่า “แข็งกร้าวที่สุด” เมื่อเทียบกับ NSS ทุกฉบับที่ผ่านมา
ด้านยุทธศาสตร์ภูมิภาค จีนไม่ถูกนิยามว่าเป็น “ศัตรูแบบสหภาพโซเวียต” แต่ถูกมองว่าเป็น คู่แข่งระดับมหาอำนาจที่สามารถเปลี่ยนระเบียบอินโด–แปซิฟิกได้ สหรัฐย้ำว่า เส้นทางเดินเรือทะเลจีนใต้ต้องไม่ถูก “ผู้แข่งขันรายใดรายหนึ่ง” ควบคุม (หมายถึงจีนโดยตรง)
สหรัฐยังประกาศแผนสร้าง “พันธมิตรเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ด้วยกลุ่ม
สหรัฐ–ญี่ปุ่น–อินเดีย–ออสเตรเลีย + สหภาพยุโรป + เกาหลีใต้
มูลค่ารวมกว่า 65 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อถ่วงดุลอำนาจจีน
เอกสารยังระบุให้เสริมกำลังป้องกันของญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และไต้หวัน และให้กองทัพสหรัฐมีความพร้อมในการป้องกันไม่ให้มี “การเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมโดยฝ่ายเดียว” ในเขตเส้นทางเกาะแรก (First Island Chain) แม้สหรัฐยังคงใช้ยุทธศาสตร์กำกวม แต่ทิศทางชัดเจนขึ้นมาก
ด้านเทคโนโลยี แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อจีน แต่ทุกมาตรา “ชี้เป้าไปที่จีนโดยปริยาย” NSS ระบุว่า สหรัฐต้องเป็นผู้กำหนดมาตรฐานโลกด้าน AI ควอนตัม ไบโอเทค เซมิคอนดักเตอร์ อวกาศ และนิวเคลียร์ และ “ไม่อาจปล่อยให้คู่แข่งนำหน้าได้ในเทคโนโลยีสำคัญ”
ใจความสำคัญของยุทธศาสตร์สหรัฐต่อจีนในเอกสารนี้ประกอบด้วยคำหลักคือ
การแข่งขัน – การยับยั้ง – ลดความเสี่ยง – พันธมิตร – ล้อมเทคโนโลยี – แยกตัวทางเศรษฐกิจ – การป้องปรามทางทหาร
คำเดิมอย่าง “การมีปฏิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์”, “ผลประโยชน์เชื่อมโยงกัน”, “การเปลี่ยนผ่านโดยสันติ” ที่เคยเป็นแกนหลักของนโยบายสหรัฐต่อจีนตลอด 30 ปี ถูกลบออกไปหมด และแทนที่ด้วยชุดยุทธศาสตร์ใหม่ที่มุ่งจำกัดอิทธิพลจีน สร้างห่วงโซ่อุปทานใหม่ เสริมระบบพันธมิตร และปิดล้อมเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างเป็นระบบ.
สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท. โปรดคลิ๊ก
รำ