รายงานข่าว......"คนพัทลุงคัดค้านเขื่อนคลองใหญ่"
โดย…เครือข่ายอนุสรณ์สถานถังแดง

ผลการประชุมปรึกษาหารือเรื่องเขื่อนคลองใหญ่ เมื่อวันที่ 27 ธค.67 ณ อุทยานประวัติศาสตร์ถังแดง
ผู้เข้าร่วม : สหาย กรรมการสิทธิ์(กสม.) สื่อภาคประชาชน ข้าราชการเกษียณ ภาคประชาสังคม ตัวแทนพรรคประชาชน รวมประมาณ 30 คน

เริ่มต้นจากการแนะนำตัวและความรู้สึกต่อเรื่องนี้ รวมทั้งมุมมองว่าน่าจะทำอะไรกันต่อไปดี
ประมวล,ประเมินจากผลของการสร้างเขื่อนทั้งหมดในจ.พัทลุง 4 แห่ง แล้วไม่ได้ก่อให้เกิดผลตามที่กรมชลฯอ้างแต่อย่างใด ในหน้าแล้งก็ไม่มีน้ำปล่อยไปหล่อเลี้ยงพื้นที่ ในหน้าฝนก็ปล่อยน้ำไปท่วมพื้นที่ด้านล่าง
กรณีของเขื่อนป่าบอนที่รั่วไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ ต้องซ่อมกันหลายครั้ง แม้ครั้งสุดท้ายในปี 67 นี้ก็ต้องใช้งบซ่อมไปถึง 98 ล้านบาท / กรณีของเขื่อนป่าพยอม ก็ใช้ได้เพียงการปล่อยน้ำให้คนได้ล่องแก่งมากกว่าทางเกษตรตามวัตถุประสงค์แต่อย่างใด เช่นเดียวกับเขื่อนเขาหัวช้างที่น้ำยังมีกลิ่นเหม็น และไม่สามารถนำไปใช้ตามเป้าหมายโครงการด้วยเหมือนกัน ขณะที่ตามแผนของกรมชลฯที่วางไว้จะต้องสร้างอีก 17 เขื่อน หากสายน้ำถูกกักกั้นไว้มากขึ้นๆ ปริมาณน้ำจืดที่ไหลลงไปสู่ทะเลสาบก็น้อยลง มีผลต่อคุณภาพน้ำในทะลสาบจาก 3 น้ำ กลายเป็นเพียง 2 น้ำ หรือแค่น้ำเค็มอย่างเดียว ความหลากหลายทางชีวภาพ ชนิดของสัตว์น้ำก็จะลดลงๆ ปลาหลายชนิดหายไปจากทะเลสาบ เช่นปลาพรหม ปลาตุม แม่กุ้ง ฯ
กรณีของโครงการสร้างเขื่อนคลองใหญ่ หากสร้างขึ้นมาจริง คลองสายนี้เมื่อถูกปิด คลองในพื้นที่ใกล้เคียง หลายๆสายก็จะกระทบไปด้วย ก็จะส่งผลไปถึงพื้นที่สวนของชาวบ้านสองฝั่งคลองหลายสายที่จะขาดความชุ่มชื่นทันทีเพราะน้ำผิวดินจะสะเด็ดลงไปท้องคลองหมด ปรากฏการณ์เหล่านี้เริ่มเกิดขึ้นแล้ว ในพื้นที่ลุ่มน้ำของคลอง, เขื่อน ที่สร้างกันไปแล้วทั้ง 4 แห่ง อย่างไรก็ตามกรมชลฯก็ยังสามารถขายฝันต่อไปได้เรื่อยๆหากคนพัทลุงยังไม่ตื่น(ตัว) และไม่ช่วยกันปกป้องทรัพยากรฯเอาไว้ คงไม่เหลือไปถึงลูกหลานแน่นอน
พื้นที่มีส่วนได้เสียในโครงการอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่
1. เมือง
2. ตำบลตำนาน
3. ตำบลบ้านนา
4. ตำบลท่ามิหรำ
5. ตำบลปรางหมู่
6. ตำบลนาท่อม
7. ตำบลอ่างทอง
8. ตำบลท่าแค
9. ตำบลพญาขัน
10. ตำบลลำสินธ์ุ
11. ตำบลควนมะพร้าว
12. ตำบลร่มเมือง
13. ตำบลชุมพล
14. ตำบลโคกชะงาย
15. ตำบลเขาเจียก
16. ตำบลลำปำ
17. ชุมชนที่ต้องพึ่งพิงทะเลสาบสงขลาในการดำรงชีพ


จะเห็นได้ว่า พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน ครอบคลุมกว้างขวาง ไม่ต่ำกว่า 17 ตำบล
ขณะที่การจัดประชุมชี้แจงโครงการ, ประชาพิจารณ์ ทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา มีเพียงผู้เข้าร่วมจากหน่วยงาน, ท้องถิ่น และชาวบ้านที่มีที่ดินในบริเวณที่จะสร้างเขื่อนเท่านั้นเอง ไม่ได้มีประชาชนจาก 17 ตำบลดังกล่าวเข้ามามีส่วนร่วมแต่อย่างใด จึงถือว่าการจัดประชุมของกรมชลฯที่ผ่านมาไม่ชอบด้วยกฏหมาย(ประชาพิจารณ์) และถือว่าละเมิดต่อสิทธิมนุษยชนของประชาชน และสิทธิของชุมชนในการที่จะพิทักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติ
มีข้อเสนอต่อที่ประชุมเพื่อดำเนินการในช่วงต่อไป
- ให้ทางกสม.มาเปิดเวทีรับฟังความเห็น ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการเขื่อนคลองใหญ่ เพื่อให้ชาวบ้านได้รับรู้ถึงผลดี, ผลเสียจากเขื่อนฯ
และให้ผู้เข้าร่วมได้รับรู้ไปถึงผลกระทบทั้งดีและเสียจากทั้ง 4 เขื่อนที่สร้างเสร็จไปแล้วด้วย มีคนเสนอให้จัดที่วัดบ้านนา มีผู้เข้าร่วมประมาณ 100 -150 คน (ส่วนของชาวบ้าน 100 คน) จะกำหนดเวลาอีกครั้ง
- กสม.เปิดเวทีสาธารณะที่ศาลากลางเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนักวิชาการได้มาชี้แจงและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอต่อทางออกหรือทางเลือกของปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย
ทั้งนี้ทางกสม.จะต้องคุ้มครองสิทธิ์ของประชาชนที่ร้องเรียนไป ไม่ให้กรมชลฯดำเนินการใดๆในโครงการเขื่อนคลองใหญ่ในขณะนี้ไว้ก่อน
- งานวิจัยเรื่องผลกระทบจากเขื่อนทั้ง 4 แห่งที่ทำไปแล้วในจ.พัทลุงน่าจะได้รับการขับเคลื่อน เพื่อที่จะเป็นเครื่องยืนยันว่าควรที่จะสร้างเขื่อน หรือมีการบริหารจัดการน้ำไปในแนวทางเดิมๆ อีกหรือไม่ ?

 

สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท.  โปรดคลิ๊ก