การปิดงานงดจ่ายค่าจ้าง- คืออะไร ทำได้หรือไม่ และควรหาทางออกอย่างไร

 

  

ความเห็นที่ 1

 

 กรณีบริษัทไดกิ้นปิดงานไม่ใช่เลิกจ้าง เป็นเพียงการแข่งกัน ว่านายจ้างหรือลูกจ้าง อึดกว่ากัน

 การปิดงานของนายจ้าง  ไม่ใช่การเลิกจ้าง แต่เป็นการใช้สิทธิเพื่อตอบโต้ลูกจ้างในกรณีที่มีข้อพิพาทแรงงานเกิดขึ้นและไม่สามารถตกลงกันได้ตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด

 การปิดงานของนายจ้างอ้างอิงมาตราตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ดังนี้

 

 

มาตรา 21 และ 22 ซึ่งเป็นมาตราที่กำหนดขั้นตอนการดำเนินการข้อเรียกร้อง จนนำไปสู่การเป็นข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่เปิดให้มีการใช้สิทธิปิดงานได้

มาตรา 21 กำหนดให้ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลผูกพันคู่กรณี

มาตรา 22 กำหนดขั้นตอนเมื่อข้อเรียกร้องไม่ได้รับการยอมรับ นำไปสู่การไกล่เกลี่ยของพนักงานประนอมข้อพิพาท (ถ้าไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ และไม่มีการตกลงตั้งผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน) จะถือว่าเป็นข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขให้ใช้สิทธิปิดงาน รึนัดหยุดงานได้

 

การปิดงานตามมาตราห้ามีคำนิยามว่าคือการที่ นายจ้างไม่ยอมให้ลูกจ้างทำงานชั่วคราว เนื่องจากข้อพิพาทแรงงาน

 

มาตรา 34 วรรคสอง กำหนดว่าก่อนการปิดงานหรือการนัดหยุดงาน ให้ฝ่ายที่จะปิดงานหรือนัดหยุดงาน แจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานและอีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง

 

ผลของการปิดงาน

เมื่อนายจ้างดำเนินการปิดงานโดยชอบด้วยกฎหมาย (ทำตามขั้นตอนตามมาตรา 13, 22, และ 34 วรรคสอง) ผลที่ตามมาคือ

 

 1. การจ้างแรงงานยังคงอยู่ การปิดงานเป็นเพียงการหยุดทำงานชั่วคราว ไม่ได้เป็นการเลิกจ้าง

2. นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง เนื่องจากสัญญาจ้างแรงงานเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อลูกจ้างไม่สามารถทำงานได้เพราะการปิดงานของนายจ้าง (ซึ่งเป็นการใช้สิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย) นายจ้างจึงไม่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในช่วงเวลานั้น (อ้างอิงแนวคำพิพากษาศาลฎีกา

3. แต่หากการปิดงานนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (เช่น ปิดงานโดยไม่มีข้อพิพาทแรงงาน, ปิดงานในกิจการที่ห้ามปิด, หรือไม่ได้แจ้งล่วงหน้า) นายจ้างอาจต้องรับผิดชอบจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในช่วงที่ปิดงานนั้นได้ (เป็นการจ่ายค่าเสียหาย)

 

นอกจากนี้ หากรัฐมนตรีเห็นว่าการปิดงานนั้นอาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนของประชาชน/ขัดต่อความสงบเรียบร้อย/อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศ/เป็นภัยความมั่นคงของประเทศ รัฐมนตรียังมีอำนาจตามมาตรา 35 (3) จัดให้บุคคลอื่นเข้าทำงานแทนลูกจ้างซึ่งมิได้ทำงานเพราะการปิดงานหรือการนัดหยุดงานได้ โดยนายจ้างต้องยอมให้บุคคลเหล่านั้นเข้าทำงาน และห้ามมิให้ลูกจ้างขัดขวาง

 

การปิดงานจะยุติลงเมื่อข้อพิพาทแรงงานได้รับการระงับแล้ว ซึ่งทำได้หลายวิธี เช่น ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ ทั้งสองฝ่ายตกลงตั้งผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน ตามมาตรา 26 โดยคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ (ก.ร.ส.) ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงานกรณีที่เป็นกิจการที่สำคัญตามมาตรา 23 (เช่น กิจการรถไฟ, โรงพยาบาล, การประปา) หรือกิจการอื่นๆ ตามมาตรา 25 และมาตรา 36 และจบที่นายจ้างประกาศ ยกเลิกการปิดงาน

  

 

ความเห็นที่ 2

 

นายจ้างสั่งปิดงานงดจ้าง ไม่ใช่การเลิกจ้าง เปิดข้อกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ ชี้ลูกจ้างไร้สิทธิรับค่าจ้างช่วงดังกล่าว 

จากกรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการที่นายจ้างประกาศ ‘ปิดงานงดจ้าง’ (Lockout) นั้น พบว่าตาม พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 การปิดงานงดจ้าง มิได้เป็นการเลิกจ้างพนักงาน แต่เป็นมาตรการทางกฎหมายที่นายจ้างสามารถใช้ได้ในบางสถานการณ์ เมื่อเกิด ข้อพิพาทแรงงาน และการเจรจาระหว่างคู่กรณียุติลงโดยไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้

ตามกฎหมายระบุว่า การปิดงานเป็นการ หยุดการทำงานของสถานประกอบการทั้งหมดหรือบางส่วน เพื่อกดดันให้การเจรจาเดินหน้าหรือยุติข้อพิพาทแรงงาน โดยก่อนการปิดงาน นายจ้างต้องผ่านกระบวนการ 

1.เกิดข้อพิพาทแรงงาน 

2.เจรจากับลูกจ้างหรือสหภาพแรงงานแต่ไม่เป็นผล 

3.แจ้งต่อพนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานตามขั้นตอน  เมื่อถึงขั้นปิดงานแล้ว ลูกจ้างจะไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในระหว่างช่วงเวลานี้ เนื่องจากถือว่า ‘ไม่ได้ทำงานตามปกติ’ ตามหลักกฎหมายแรงงานสัมพันธ์

ในมุมปฏิบัติ ระยะเวลาการปิดงาน ไม่มีการกำหนดตายตัว ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่คู่พิพาทจะสามารถหาทางยุติปัญหาได้ อาจกินเวลาเพียงไม่กี่วัน หลายสัปดาห์ หรืออาจยาวนานเป็นเดือน หากยังอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายที่อนุญาต

 

อธิบายแบบภาษาทั่วไปคือ เมื่อฝ่ายลูกจ้างใช้สิทธิทางกฎหมายในการกดดัน เช่น การนัดหยุดงาน (สไตรค์) นายจ้างเองก็มีมาตรการตามกฎหมายในการตอบโต้เช่นกัน คือการปิดงาน ซึ่งเป็นเครื่องมือทางอำนาจในการเจรจาคล้ายกัน เพียงแต่ดำเนินการภายใต้เงื่อนไขและกระบวนการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตามมีข้อแนะนำว่า ทั้งสองฝ่ายควรใช้ช่องทางเจรจาและไกล่เกลี่ยให้ถึงที่สุด เพื่อลดผลกระทบต่อสถานประกอบการและผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการขาดรายได้ในช่วงปิดงาน

 

 

credit ข้อมูลข่าว  Thai PBS 

 

สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท. โปรดคลิ๊ก