วิชา GEO 101 : เส้นเขตแดนไทย-กัมพูชาทศวรรษนี้
โดย สหายม่ง
วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) หยุดยิง ข่าวสารไม่ท่วมเหมือนหลายวัน
คิดตั้งประเด็นศึกษาค้นคว้า ถือว่าเป็นวิชา GEO 101 แล้วกัน ผิดพลาดใดๆ ช่วยให้ความรู้เพิ่มเติม
1. แผนที่ 1:50,000 หรือ 1:200,000 ยังไม่มีเห็นตัวแผ่นจริงๆ หรือโชว์ภาพจริงบนอินเตอร์เนท มันมีเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศบนแผนที่หรือไม่
แผนที่ 1:50,000 ที่ใช้ทางทหาร เป็นระบบ Grid คือแบ่งพื้นที่เป็นช่องสี่เหลี่ยม มีอักษรอังกฤษกำกับช่องตามแนวรุ้งหรือแวง แล้วซอยย่อยเป็นตัวเลข 0-9 ทั้งแนวนอนแนวตั้ง เช่น ยอดเขาค้อจุดที่เป็นฐานกรุงเทพอยู่ที่พิกัด QU 1426 มันจะโฟกัสลงไปในพื้นที่ไม่กี่ตารางเมตร พิกัดชัดเจน ใช้ทางการทหาร ใช้ยิงปืนใหญ่ได้ เมกาเป็นคนทำ ส่วนที่เคยเห็นบนเฟสบุ๊คที่ว่า 1:50,000 แล้วเป็นตัวเลขอย่างเดียว เข้าใจว่า เป็น 1:50,000 ที่เป็นระบบเส้นรุ้ง แวง ใช้กับพลเรือน ส่วน 1:200,000 เคยเห็นเป็นแผ่นของพลเรือนใช้ มีพื้นที่ทุกจังหวัด อำเภอ ไปหาซื้อได้
ประเด็นคือ เส้นปรุแบบที่เห็นในแผนที่ บนหน้าข่าว ใครทำเส้นปรุ คนทำแผนที่หรือ ?????
ใช้เกณท์อะไร หรือคิดเอง
สำหรับประเทศที่มีข้อพิพาท ก็ขึ้นกับการตกลงทั้งสองฝ่าย เช่น JBC จะใช้ขอบหน้าผา หรือสันปันน้ำ ก็ตามข้อตกลง หรือสนธิสัญญา มันก็ชัดเจน ผมจึงไม่เห็นว่า ไอ้ 1:50,000 หรือ 1:200,000 จะเป็นเรื่อง “ขายชาติ” อย่างขอบผา หรือ สันปันน้ำ ดูไงก็ไม่ต่างกันมาก เพราะภูมิประเทศมันบ่งบอกชัดเจน ที่ไม่ชัดเจนก็เจรจากันไป….ที่จริงแล้ว ผมก็เห็นว่า 1:50,000 มันชัดและละเอียดกว่า
อย่างไทย-เมียนมา เทือกเขาตะนาวศรี ยาวเป็นพันกว่าโลก็ปักแค่บางเขต ที่มีเส้นทางด่านข้ามแดน
เส้นปรุจางๆ เข้าใจว่ามากับแผนที่ แต่ก็น่าจะมาจากคนทำแผนที่ และคนทำคงตายไปนานแล้ว ไม่ว่าแผนที่ชุดไหน เพราะทำมาหลายสิบปีแล้ว ส่วนเส้นแดงหรือแดงเข้มน่าจะขีดเอง
2. ต่อเนื่องมาจากข้อแรกที่บางคนบอก 1:50,000 กับ 1:200,000 มีผลต่อผลประโยชน์ในอ่าวไทย ในการอ้างความเป็นเจ้าของเขตในทะเล ???
ทำให้ผมจินตนาการว่า การทะเลาะกันด้วยแผนที่แถวอุบลฯ สุรินทร์ จะลากยาวไปถึงเขตในทะเลด้วย ???
ผมเข้าใจว่า สิทธิในทะเล มันเป็นกม.ระหว่างประเทศ จะ 12 หรือ 200 ไมล์ทะเล ก็ว่ากันไป ทับซ้อนกันก็ตกลงกัน (หรือรบกันประปรายก็มี) หลายที่บนโลกก็ตกลงไม่ได้ มันจะเกี่ยวกับแผนที่บนบกตั้งแต่อีสานแล้วทำให้เสียจุดเล็งลงไปในทะเลหรือ ผมว่าไม่น่าใช่
ถ้าจำเพาะอ่าวไทยฝั่งใกล้เขมร ความยาวของจังหวัดตราดกับเกาะกูด เป็นสิ่งชี้วัดเขตอ้างสิทธิพื้นทะเลมากกว่า โชคดีที่ตราดมีพื้นที่ยาวเหยียดแคบๆ ยาวๆ ลงไปแถวคลองใหญ่ปิดหน้าร้านเขมรทำให้เรามีพื้นที่หันหาทะเลมากขึ้น
แผนที่ 1:50,000 หรือ 1:200,000 จึงไม่เกี่ยว ประเด็นมันเกี่ยวกับพระราชโองการ 2516 กับ mou 2544….ดูรูป
ตามกม.ระหว่างประเทศที่แน่ชัด เรามีหลักหมุดที่ 73 ใต้สุดของแผ่นดินไทยที่จังหวัดตราด เล็งมายังใต้สุดของเกาะกูดที่เส้นรุ้ง 11 องศาเหนือ เหนือเส้นนี้ขึ้นไป ไทยทำประโยชน์ได้
ส่วนใต้เส้น 11 องศาเหนือ ส่วนหนึ่งหมื่นกว่าตารางกิโลเมตร เขมรก็อ้างสิทธ์ร่วม mou 44 ก็ว่าคุยกันไปส่วนฝ่ายต่อต้านก็ว่าขายชาติ
คงไม่ได้ขุดหรือพัฒนาแหล่งนี้หรอก พลังงานตัวใหม่อาจขึ้นแซงทำให้ราคาฟอสซิลใต้ทะเลไม่คุ้มขุดในอนาคตก็ได้
ประเด็นในทะเลคือ ไทยยึดถือเส้นมัธยะ ที่ลากจากหมุดที่ 73 ผ่านเส้นกึ่งกลางของระหว่างเกาะกูด กับเกาะกง ส่วนเขมร ถือเอาการประกาศเขตไหล่ทวีป (ซึ่งกินอาณาบริเวณเหนือเกาะกูด)
ฝ่ายคัดค้านในไทย บอก Mou 2544 ไม่คัดค้านแผนที่พ่วงท้ายนี้ของกัมพูชา ทำให้เหมือนรับไปโดยปริยาย
ตรงนี้แหละ พื้นที่เหนือเส้นมัธยะขึ้นมาหมื่นกว่าตารางกม. ที่เป็นปัญหา
อาจไปจบเมื่อไทยเปลี่ยนอีก 2-3 รัฐบาล แล้วกัมพูชาก็เปลี่ยนกลุ่มผู้นำ ตอนนั้นอาจตกลงกันได้
สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท. โปรดคลิ๊ก