บทความใหม่รอบเดือน

“บทบาทของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ต่อการเปลี่ยนแปลงสังคม”


๑.
พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ก่อตัวมาตั้งแต่ปี ๒๔๗๓ ในชื่อพรรคคอมมิวนิสต์สยาม แล้วเปลี่ยน มาเป็นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เมื่อปี ๒๔๘๕


นับมาถึงวันนี้ เป็นปีที่ ๘๓ แม้จะไม่สามารถนำพาประเทศไทย ไปสู่ระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ ตามที่ตั้งปณิธานเอาไว้ได้ แต่ตลอดระยะเวลาอันยาวนานนั้น พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ก็ได้สะสมผลงานสร้างคุณูปการต่อสังคมไทยไว้มากมาย

สิ่งสำคัญที่ชาวพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้ทำ คือการเปิดเผยปัญหาที่กดทับประชาชน นำแนวคิดวิวัฒนาการสังคม ตามแนวลัทธิมาร์กซ มาเผยแพร่ ให้การศึกษาทางความคิด เปิดโลกทัศน์ของมวลชน ชี้ให้กรรมกร, ชาวนา, นายทุนน้อย และนายทุนชาติเข้าใจถึงสิทธิพึงมีพึงได้ สังคมที่เป็นธรรม ชี้ให้รู้จักพลังของตนเอง ทำให้กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้ กล้าลุกขึ้นมาเรียกร้องความเป็นธรรม กล้าลุกขึ้นมาสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับตนเอง

การเผยแพร่ความคิดทางการเมือง ผ่านสถานีวิทยุเสียงประชาชนแห่งประเทศไทย สถานีวิทยุแห่งแรกและแห่งเดียวของประชาชน และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ ใบปลิว โปสเตอร์ รวมทั้งการจัดกลุ่มศึกษาหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ปีที่ก่อตั้งพรรคเรื่อยมา ได้เปิดโปงอำนาจไม่เป็นธรรม ที่กระทำต่อประชาชน และเสนออุดมการณ์ของสังคมใหม่ โดยมีสหภาพโซเวียต และจีน เป็นแบบอย่าง

ผ่านการเคลื่อนไหวนักเรียนในโรงเรียนสอนภาษาจีน เช่นโรงเรียนซินหมิน โรงเรียนเผยอิง เป็นต้น ทำให้มีเยาวชนจำนวนมาก ยึดเอาการปฏิวัติสังคมตามแนวทางลัทธิมาร์กซ เป็นอุดมการณ์ พวกเขาเหล่านี้ได้กลายเป็นกำลังสำคัญ ในการต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม เป็นกองกำลังหลัก ในองค์กรนำของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ในเวลาต่อมา

ผ่านการเคลื่อนไหวต่อต้านสงครามญี่ปุ่น ในปลายสงครามโลกครั้งที่ ๒ เหล่านักศึกษาธรรมศาสตร์ยุคปี ๒๕๐๐ ได้รับผลสะเทือนนี้ จนกระทั่งได้กลายเป็นแนวหน้า ในการเคลื่อนไหวรักชาติ คัดค้านสงคราม ในหมู่ปัญญาชน ก่อตั้งกันขึ้นเป็นขบวนการสันติภาพ และขบวนการกู้ชาติ ส่งผลให้ชนชั้นปกครองจำต้องปรับเปลี่ยนนโยบาย ทั้งต่างประเทศ และในประเทศ


ผ่านการเคลื่อนไหวให้กรรมกรรู้จักเรียกร้องสิทธิอันพึงมีพึงได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งชนชั้นปกครอง จำต้องออกกฎหมาย คุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้ใช้แรงงาน ประกันค่าแรงขั้นต่ำ ปรับปรุงสวัสดิการ ทำให้ชนชั้นกรรมาชีพ ได้ตระหนักถึงพลังของชนชั้นตน และกล้าที่จะลุกขึ้นสู้ ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของตนจนทุกวันนี้


ผ่านการเคลื่อนไหวของสหพันธ์ชาวนาชาวไร่แห่งประเทศไทยทำให้ มีการประกาศใช้กฎหมายควบคุมการเช่านา ฉบับปี ๒๕๑๗ กฎหมายการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ปี ๒๕๒๔ และ กรรมสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ปลดปล่อยชาวนาชาวไร่จากระบบกึ่งไพร่ในที่ดินได้สำเร็จ

และ นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ประชาชน สามารถจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธของตนเอง ขึ้นมาต่อสู้กับชนชั้นปกครอง


การมีอยู่ของกองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย หรือ ทปท.ที่สวมหมวกดาวแดง สร้างผลสะเทือนอย่างกว้างขวาง ในขอบเขตทั่วประเทศ


ระหว่างปี ๒๕๒๐-๒๕๒๔ ทปท.มีกำลังพลพร้อมอาวุธมากกว่าสามพันคน พวกเขาได้ปลดปล่อยพื้นที่บางส่วนออกจากอำนาจของชนชั้นปกครอง สามารถจัดตั้งอำนาจรัฐของประชาชนขึ้นมาในพื้นที่หลายจังหวัด นำแนวทางนโยบายและอุดมการณ์คอมมิวนิสต์มาใช้ในพื้นที่ปกครอง ดูแลรักษาทรัพยากรของชาติ ปราบปรามโจรผู้ร้าย ดูแลสุขภาพของประชาชน และขับไล่เจ้าหน้าที่ทุจริตคดโกงออกจากเขตปกครองได้สำเร็จ


พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ได้สร้างฐานที่มั่นและเขตงานต่าง ๆ ให้เป็นเขตพื้นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์กดขี่เข่นฆ่าประชาชน จากฝ่ายชนชั้นปกครอง ในพื้นที่ต่างๆ เขตงานของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในที่นั้น จะเป็นพื้นที่ให้ประชาชนผู้เดือดร้อนทุกข์ยากได้หลบภัย และเพิ่มเติมกำลังให้กับฝ่ายประชาชน


การเข่นฆ่านักศึกษาประชาชนครั้งใหญ่ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ ฐานที่มั่นและเขตงานต่างๆ ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยทั่วประเทศ ได้เปิดรับนักศึกษาประชาชนที่ถูกไล่ล่าหลายพันคน ให้เข้ามาหลบภัย และเข้าร่วมการต่อสู้ตอบโต้ชนชั้นปกครอง

ตลอดหลายปีที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เคลื่อนไหวประกาศแนวความคิดเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียมเสมอภาค นักคิดนักเขียนจำนวนมากได้รังสรรค์งานที่มีคุณค่าออกมามากมาย บ่มเพาะให้การศึกษาผู้คน ให้รู้จักพลังของตัวเอง เข้าใจสถานการณ์รอบตัว ปรับปรุงชีวทัศน์โลกทัศน์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง


ดอกไม้แห่งวรรณกรรม เพลง ดนตรี บานสะพรั่ง ในแผ่นดินไทย เพลงเพื่อชีวิต วรรณกรรมเพื่อชีวิต สร้างอารมณ์ความรู้สึกที่ฮึกห้าว กล้าหาญ กล้าคิด กล้าต่อสู้ มุ่งมั่นเพื่อสิ่งดีงาม เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่คนหนุ่มสาว


เรื่องเหล่านี้ได้เกิดขึ้นแล้วในสังคมไทย ทุกวันนี้เรามองไม่เห็นว่า กำลังยืนเหยียบอยู่บนสิ่งเหล่านั้น เพราะมันได้พัฒนา จนเป็นรากฐานทางเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรมของสังคมไปแล้ว


๒.
หลายทศวรรษที่พรรคคอมมิวนิสต์ต่อสู้ เพื่อขยายอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่นี้ ได้กระตุ้น ผลักดัน เร่งเร้า และรุกรบให้ชนชั้นปกครองต้องปรับเปลี่ยนแก้ไข เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน ค่อยๆ สร้างมาตรฐานของชีวิตสังคม ให้สูงขึ้น


การต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธ ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตทั้งสองฝ่ายไปไม่น้อย แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็เป็นแรงผลักดันสำคัญให้ชนชั้นปกครอง จำต้องปรับเปลี่ยนวิธีตอบโต้ ด้วยการผ่อนปรนแก้ไขกฎหมายจำนวนมาก สร้างสาธารณูปโภคทั่วถึงทั้งประเทศ ประกันชีวิตที่ปลอดภัย ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมให้กับประชาชนไทย


เกิดเป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับแรกในปี พ.ศ. ๒๕๐๔ เน้นการสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่นสร้างถนน, กระจายเครือข่ายไฟฟ้าไปทั่วทุกจังหวัด สร้างระบบจ่ายน้ำประปา สร้างโรงพยาบาล และโรงเรียนทั่วประเทศอย่างขนานใหญ่


สถาบันหลักๆ ในสังคม ไม่เว้นแม้แต่ศาสนา ได้ระดมพลังทุกระดับ มาช่วยทำกิจกรรมต่อต้านคอมมิวนิสต์ มีการส่งเสริมอาชีพ พัฒนาเศรษฐกิจชาวบ้าน ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในบางระดับ ขยายการผลิตด้านอุตสาหกรรมและบริการ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ เน้นการผลิตอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก กระตุ้นการลงทุนทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดชนชั้นนายทุนน้อย และนายทุนชาติเพิ่มมากขึ้น


ชนชั้นกลาง ปัญญาชน และอาชีพอิสระเพิ่มทวี จนกลายเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ ของการเรียกร้องต่อสู้ทางการเมือง ในเวลาต่อมา


เพื่อต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ ชนชั้นปกครอง จำต้องรับฟังความเรียกร้องต้องการของประชาชนมากขึ้น
การเผด็จอำนาจเบ็ดเสร็จทำไม่ได้ง่ายดายอีกต่อไป การรับฟังเสียงของประชาชนกลายเป็นความจำเป็น การรัฐประหาร กับการเลือกตั้ง จึงเกิดสลับไปมาเป็นระยะๆ

นี่คือบทบาทของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ในการเปลี่ยนแปลงสังคม แม้ไม่สามารถนำไปถึงสังคมอุดมการณ์ได้ แต่ก็ได้ฝังหน่ออ่อน เพาะเมล็ดพันธุ์แห่งการตื่นตัวเอาไว้ในสังคม ที่ไม่อาจถอนออกได้อีกเลย

แน่นอนว่า ผลงานทั้งหมดของพรรค ไม่อาจกล่าวได้ลอยๆ เพียงว่า เมื่อมีนโยบายแนวทางแล้ว สิ่งต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นเองด้วยคำพูด ทุกสิ่งเกิดขึ้นเพราะมีผู้คนจำนวนมากได้อุทิศชีวิต ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจ สติปัญญา ความสามารถลงมือทำ อย่างเต็มที่


ดังนั้น เมื่อกล่าวถึงคุณูปการที่พรรคคอมมิวนิสต์สร้างไว้ให้แก่สังคมไทย จึงย่อมหมายถึงชาวพรรคคอมมิวนิสต์ทุกคน ทั้งในฝ่ายนำ ฝ่ายทหาร และผู้ปฏิบัติงานในส่วนต่างๆ รวมทั้งประชาชนผู้สนับสนุน


พวกเรา ชาวพรรคคอมมิวนิสต์ที่อยู่ที่นี่ในวันนี้ คือส่วนหนึ่งของบุคคลเหล่านั้น ถึงวันนี้ แม้ความแก่ชราจะย่างกรายเข้ามาสู่ชีวิต แต่อุดมการณ์ที่จะสร้างสังคมอันดีงาม ยังเต็มเปี่ยมอยู่ในใจ ประกายตายังคงเจิดจ้าจรัสทุกครั้ง ที่เห็นความดีความงามเกิดขึ้นในสังคม

หวังว่า การรวมตัวกัน เพื่อรำลีกวันก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ทุกๆ ครั้ง จะนำพาอุดมการณ์นี้ให้งอกงาม ขยายตัวต่อๆ ไป จนกว่าสังคมไทย ประชาชนไทย จะได้รับการปลดปล่อยจากห่วงโซ่แห่งความยากจน และความไร้สิทธิเสรีภาพ จนกว่าลูกหลานของเราได้มีชีวิต อยู่อาศัย ยืนเหยียบบนผืนแผ่นดินอุดมสมบูรณ์นี้ต่อไป ด้วยความสงบสุข.

 

สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท. โปรดคลิ๊ก  

 


whitebanner