ทางแยก   -   ไหมลี   (๔) 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“จื๋อๆๆๆ ... สะล้าตั้ว”

เสียงเด็กชายสองพี่น้องที่นั่งเล่นกลางตุ๊บไร่ ตะโกนบอกพ่ออย่างตื่นเต้น

เมื่อเห็นมุ่งและสหายเดินขึ้นมาตามทางเล็กๆกลางไร่ข้าว

 

หลายเดือนที่ได้รู้จักกัน จากหน้าฝนจนย่างเข้าหนาว

แทบทุกครั้งที่ใช้เส้นทางนี้ มุ่งและสหายมักแวะมาที่ไร่

ความคุ้นเคยต่อกันของทั้งสองฝ่าย เพิ่มมากขึ้น

พ่อแม่ไหม เริ่มยอมให้ลูกๆพบและพูดจากับทหารป่ากลุ่มนี้

“สะล้า” คือคำที่เด็กๆใช้เรียกพวกเขาแทนคำว่า “สหาย”

 

“เป้ตั่วไล้บัวเต๊ลู่ ไฟ้ตั้วจัวก้อ ...”

(เรายิงหมูป่าตัวใหญ่ได้ เลยแบ่งมาให้)

มุ่งยื่นห่อเนื้อหมูป่าย่างชิ้นใหญ่ให้พ่อไหม

 

เจอกันช่วงหลัง มุ่งและสหายมักมีข้าวของติดมือมาฝาก

โดยเฉพาะเนื้อสัตว์จากป่าลึก หมูป่าบ้าง เก้งกวางบ้าง

“อัวโจวดันเดา ตั้วฉั่งกู๋ กู๋ยงช้ะเหง”

(ขอบคุณมากๆ มาเยี่ยมฉัน ฉันก็ดีใจมากแล้ว)

พ่อไหมยิ้มแก้มปริ ชอบอกชอบใจกับของฝากที่ยากจะหาได้จากป่าแถวหมู่บ้าน

 

และเหมือนทุกครั้งที่เจอกัน

หลังทักทายทุกคนแล้ว มุ่งมักจะนั่งคุยกับพ่อของไหม

นานๆจะคุยกับแม่และน้องๆสักที

กับไหมนั้น เขาแทบไม่ได้คุย มีเพียงทักทายตามมารยาทเท่านั้น

ความรู้สึกที่ว่าตัวเองเป็นสหายชาย ทำให้มุ่งค่อนข้างระวังตัวกับมวลชนหญิง

 

ไหมเองก็เช่นกัน ...

มุ่งยังจำครั้งแรกที่พบไหมได้ดี

เด็กสาวในชุดกระโปรงม้งสีครามซีดจางเป๊อะของเต็มหลัง เดินขึ้นไร่มาพร้อมน้องสาว

มีน้องชายเล็กๆ ๒ คนเดินแอบอยู่ข้างหลัง

 

“ไหม ...  ก้อหน่าหลูลู่ ลอจิเตา”

(ไหม ... แม่เธอมาถึงหรือยัง)

พ่อไหมตะโกนถาม

เจ้าของชื่อ “ไหม” ที่กำลังจ้องเขาและสหายในหน่วยอย่างตื่นๆ ตอบเบาๆว่า

“หลูลู่ ...หย้อต่อกั๊ง”

(มาแล้ว ... อยู่ข้างหลังนู้น)

 

ทันทีที่วางของบนบ่าลงกับพื้นข้างแคร่ในตุ๊บ ไหมก็หลบหายไป

 

เธอเป็นแบบนี้แทบทุกครั้งที่เขากับสหายแวะมาที่ไร่

สิ่งที่ไหมใช้แสดงความเป็นมิตร มีเพียง “รอยยิ้ม”

ยิ้มใสซื่อกับบุคลิกนิ่งเงียบของเธอ เป็นสิ่งที่มุ่งสะดุดตา

 

ทั้งคู่มาเริ่มพูดคุยกันมากขึ้น หลังน้องชายคนเล็กของไหมเป็นไข้ป่า

เด็กน้อยนอนคลุมโปงหนาวสั่น ครางฮือๆอยู่คนเดียวบนตุ๊บ

แม่กับน้องสาวของไหมกลับลงไปหมู่บ้านเมื่อสองสามวันก่อน

ทั้งสองคนเป๊อะข้าวใหม่ที่เพิ่งเกี่ยวเอาลงไปคั่วที่บ้าน เพื่อเตรียมไว้ใช้ในวัน ...

“น่อหมอเบล้ชะ” (ประเพณีกินข้าวใหม่ม้ง)

 

ที่ไร่ เหลือไหมกับพ่อและน้องชายทั้งสอง

ไหมต้องช่วยพ่อทำงาน สลับกับวิ่งมาดูน้องคนเล็ก

 

บนไร่กลางภูแสนไกล แบบนี้ ...

ยามเจ็บป่วยโดยเฉพาะช่วงงานเร่งงานชุก

ถ้าไม่สาหัสจริงๆ คนม้งมักเลือกวิธี “อดทน”

 

โชคดีที่มุ่งกับสหายผ่านมาพอดี

มุ่งเอายาควินินที่พกติดมาให้เด็กน้อยกินและฝังเข็มให้ พักหนึ่งไข้ที่ไปมาตรงเวลาก็เริ่มลด

เขาให้ยาที่เหลือกับไหม อธิบายวิธีกิน สอนวิธีดูแล วิธีเช็ดตัวลดไข้ให้น้อง

 

“อย่าลืมเอายาให้น้องกินตามที่บอก แล้วก็เช็ดตัวเวลามีไข้ ทำเป็นนะ”

 

เป็นครั้งแรกที่ไหมยอมนั่งต่อหน้ามุ่ง ฟังสิ่งที่เขาพูดอย่างตั้งอกตั้งใจ

สีหน้าและแววตาที่จ้องมองเขาขณะพยักหน้าตอบรับ บอกความรู้สึกที่ยากจะคาดเดา

แต่ก็ทำเอาคนถูกมองต้องหันไปทำทีสาระวน เก็บข้าวของเครื่องมือลงกระเป๋ายา

 

วันนั้น ... ก่อนกลับ

พ่อไหมที่ขอบคุณสหายไม่ขาดปาก คะยั้นคะยอให้ทุกคนแวะมาที่ไร่อีก

“พวกเราจะเตรียมข้าวใหม่รอ มาให้ได้นะ”

ไหมลุกจากแคร่ที่น้องชายนอนอยู่ออกมาส่งสหาย เธอเอ่ยเบาๆ

“ตั้วไช๊เป้ ตั้วน่อหมอเบล้ชะโอเก อ๊อ ...”

(แวะมาเยี่ยมพวกเรา มากินข้าวใหม่ด้วยกันนะ)

 

สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท.  โปรดคลิ๊ก  

 

whitebanner