ทางแยก   -   ไหมลี   (๖) 

 

“มั่วสาไห่อัวหมั่ว คูหม่อยงชั่วะ ...”

(มีสหายเป็นหมอ รักษาเก่งมาก)

เพื่อนบ้านมากระซิบบอก

 

แม้จะรู้ว่า “สหาย” ที่ว่านี้คือ พวกคอมมิวนิสต์

ที่เข้ามาเคลื่อนไหวในหมู่บ้านใกล้ๆ และทางการกำลังเพ่งเล็งเตรียมกวาดล้าง

แต่พ่อกับแม่ก็ไม่หวั่น พากันหอบมุ่งขึ้นภูไปขอให้สหายช่วย

 

นานไม่รู้กี่วันกี่เดือน ...

ที่ทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งหมอ อดทนกับการรักษา

โรคเรื้อรังไข้ไอหอบของมุ่ง ก็ค่อยๆทุเลา

มีที่ยังค้างคาเป็นปัญหาคือ อาการติดฝิ่น

ทำให้เขายังคงผอมซูบซีดไม่มีเรี่ยวมีแรง

และกระสับกระส่ายทุรนทุรายถ้าพ่อไม่กวาดคอให้

 

ในสภาพจรยุทธ์ที่ยากลำบาก

สหายพยายามเต็มที่ ทั้งรักษาไข้ทั้งช่วยให้มุ่งอดฝิ่น

จนจวนจะหายอยู่แล้ว พ่อก็มาด่วนจากไป

 

ที่กระหน่ำซ้ำเติมชีวิตอีกครั้ง หลังพ่อเสียไปไม่นานก็คือ ...

การจากไปอย่างทุกข์ทรมานของแม่

ภาพแม่ถูกหามกลับมาบ้านในสภาพเสื้อผ้าไหม้ขาดรุ่งริ่ง

หน้าตาแขนขาเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะ พุพองเพราะถูกไฟเผาไร่คลอก

เป็นภาพที่ติดตา ฝังลึกในความทรงจำของมุ่ง จนยากจะลบเลือน

 

แม่อดทน สู้กับความเจ็บปวดได้ ๗ วันก็สิ้นใจ

ก่อนลาลับ แม่สั่งเสียสั้นๆ ...

“อยู่กัน ๓ คนพี่น้อง ให้ได้นะ”

 

ลูกๆไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่แม่สั่ง

แต่หลังฝังร่างแม่แล้ว พี่สาวพาน้องๆไปหาลุงพี่ชายของพ่อ

“ถ้าคิดจะมาอยู่กับฉัน ต้องทำงานทุกอย่างนะ และต้องอยู่ไปจนกว่าฉันจะตาย”

คำพูดคาดคั้นไร้เยื่อใย สายตาหมางเมินที่มองมา

ไล่ต้อนลูกกำพร้าทั้งสาม จนติดมุม

 

ในวัยเพียง ๑๑ ปี มุ่งหลุดปากออกไปด้วยความผิดหวังในตัวลุง

“งั้นถ้าผมขึ้นไปอยู่บนภูกับสหาย จะได้ไหมล่ะ”

“ก็ดีนะ อยู่ที่นี่ไปก็ทุกข์ยาก ลำบากทั้งตัวเองทั้งคนอื่น” ลุงว่า

วันนั้นพี่สาวได้แต่นิ่งเงียบ ก้มหน้าซ่อนน้ำตา

เธอบอกลาลุง ... จูงมือน้องๆกลับบ้านด้วยใจที่อ้างว้าง มืดมน                                                                      

 

มุ่งยืนยันจะไปอยู่กับสหาย

“ฉันจะไปรักษาตัวให้หาย”

เขาหอบ “เต๋อดง” ผืนที่แม่เคยห่มให้ กับเสื้อผ้าเก่าๆที่มีอยู่ชุดเดียว

ตามเพื่อนบ้านขึ้นภูไป ด้วยใจที่หวังเพียง ...

“ไปรักษาตัวให้หาย จะได้กลับมาช่วยพี่น้องทำกิน”

                                                                                       

แต่ความหวังนั้น ... เป็นได้แค่หวัง

ไม่กี่วันที่เขาขึ้นไปอยู่กับสหาย ทางการก็บุกเข้ากวาดล้างหมู่บ้านของเขา

ชาวบ้านถูกไล่ต้อนให้อพยพจากถิ่น แตกกระสานซ่านเซ็นไปคนละภูคนละดอย

ไม่มีคราวข่าวของพี่น้องเขามาให้ได้รับรู้อีก นับแต่นั้น

 

แรกๆ มุ่งเคยถามสหายทั้งน้ำตา

“รู้ไหม พี่กับน้องของผมไปอยู่ที่ไหน”

ทุกคนอึกอัก ไม่มีใครให้คำตอบแน่ชัดได้ว่า ...

พี่สาวและน้องสาวของเขานั้น ไปอยู่ดอยไหนภูใด

 

“น่อโจวๆ ...อ๊อ”

(กินให้อิ่มๆ ...นะ)

เสียงเบาๆของไหม ปลุกมุ่งจากภวังค์

 

เขาเงยหน้ามองฝ่ารื้นน้ำตา เห็นรอยยิ้มและสายตาอ่อนโยนที่มองมา

มุ่งฝืนยิ้มตอบ ในใจพยายามสลัดทิ้งภาพความหลัง แสนเศร้า ... 

 

............................................                                 

 

“เต๋อดง” คือผ้าที่ทำจากเปลือกต้นดงชั่ว

“ดงชั่ว” เป็นต้นไม้มียางพิษ

คนม้งใช้ยางของดงชั่ว

ชุบปลายลูกดอกหน้าไม้ สำหรับล่าสัตว์

สัตว์ที่ถูกยิงด้วยลูกดอกนี้ จะตายจากพิษยาง

 

ส่วนเปลือกลำต้นของดงชั่ว ที่มีลักษณะหนา เส้นใยเหนียว

คนม้งจะลอกเอามาทุบจนนุ่ม ล้างน้ำไหลในห้วยจนหมดยาง

ตากให้แห้งสนิท ใช้ห่มหรือปูนอนแทนผ้า 

 

สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท.  โปรดคลิ๊ก  

 

whitebanner