ทางแยก   -   ไหมลี   (๑๒) 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เสียงเป่าใบไม้ ดังแว่วมาจากไร่ของเหล่าวือ

ถ้อยสำเนียงคร่ำครวญ เว้าวอน ที่พัดมาตามสายลม

บ่งบอกความหมองหม่นในใจคนเป่า

 

ไหมอดคิดไม่ได้ว่า เขาจงใจส่งเสียงตัดพ้อนี้ มาถึงเธอ

หลายครั้งที่มาดักคอย ยามเธอไปและกลับจากไร่

เหล่าวือพยายามชวนคุย พูดโน่นถามนี่ แต่ไหมมักนิ่งเฉย

ท่าทีหมางเมินเย็นชาของเธอ ดูจะไม่ทำให้เขาลดละเลิกรา

 

จนเมื่อเย็นย่ำวันก่อน                     

เขามายืนคอยไหมตรงทางแยกขึ้นไร่ของเขา เหมือนเคย

เย็นนั้นพ่อแม่และน้องๆเดินล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

“กลับแล้วเหรอ ...” เหล่าวือทัก

“อ่อ ...” ไหมตอบ

 

เสียงย่ำเท้าตามมาห่างๆ เช่นทุกครั้งที่เธอกลับตามลำพัง

เขามักจะเดินตามมาส่งจนถึงบ้าน ก่อนแยกกลับไปเงียบๆ

แต่ค่ำนั้น ...

 

“ไหม ... ฉันรักเธอนะ”

จู่ๆเหล่าวือก็เอ่ยคำที่ไหมไม่อยากได้ยิน

“เธอจะว่ายังไง ถ้าฉันจะขอให้เธอรับรักฉัน”

ไหมหยุดกึก เธอตอบสั้นๆเหมือนคำตอบนั้นมีอยู่แล้วในใจ

“ฉันยังไม่อยากมีคู่รัก”

พูดจบ ไหมรีบสาวเท้าก้าวเร็วๆ ทิ้งเหล่าวือให้ยืนนิ่งงันกับคำตอบไร้เยื่อใย

 

จากวันนั้น แม้ไม่ถึงกับหายหน้า

แต่เช้าเย็นที่เคยยืนดักทักทาย ก็ค่อยๆห่างหาย

บางเช้า ผ่านทางแยกขึ้นไร่ ... เธอเห็นเขากำลังเดินขึ้นไปตามทาง

บางเช้า เขายังยืนดักเหมือนเดิม แต่ไหมรู้ลึกๆว่า ... ไม่เหมือนเดิม               

รอยยิ้มที่เคยแช่มชื่น กลายเป็นยิ้มเจื่อนๆหมองๆ

ไม่มีเดินตามถามไถ่ชวนพูดจาใดๆ ทักแล้วก็แยกขึ้นไร่ไป

ตกเย็นไม่มีมารอทักทาย มีแต่เสียงเป่าใบไม้เศร้าๆลอยตามลม มาทักแทน

 

ในความเหินห่างนี้ แรกๆไหมรู้สึก ... โล่งใจ

ไม่ต้องฝืนเจอหน้าทุกวี่ทุกวัน                                                                              

ไม่ต้องเบื่อหน่ายกับการถามตอบ ซ้ำซาก

ไม่ต้องทนรำคาญกับการเดินตามต้อยๆคอยไปส่งเธอถึงบ้าน

แต่นานเข้า ไหมก็อดระแวงไม่ได้ว่า

เหล่าวืออาจกำลังซุ่มวางแผนฉุดเธอ

เหมือนพวกผู้ชายที่แอบรักสาวแต่สาวไม่รักตอบ ชอบทำกัน ... ก็เป็นได้

 

ไหมเริ่มกังวลและระวังตัว ...

เธอไม่ไปไหนคนเดียว แม้แต่ไปไร่

คิดจะหนีไปนอนที่ไร่เหมือนช่วงก่อน แต่พ่อที่ไม่รู้ถึงปัญหาของไหม ไม่เอาด้วย

พ่อว่าไม่จำเป็นต้องนอนไร่ งานไม่ได้เยอะอย่างก่อนหน้านี้

ไหมไม่กล้าขะยั้นขะยอกลัวพ่อสงสัย เพราะลึกๆในใจ ... นอกจากหนีเหล่าวือแล้ว

เธอแอบหวังว่า ... อาจได้พบคนที่เฝ้ารอ

 

“ไหม ... ก้อรู้มั้ย เดี๋ยวนี้วือเอาแต่ทำงานๆๆ ไม่ค่อยไปเจอเพื่อนฝูงเหมือนก่อน”

ฉางที่เลิกยุยงให้เธอรักกับเหล่าวือพักใหญ่แล้ว เล่าถึงเขาให้เธอฟัง

“รู้หรือเปล่าว่าทำไมถึงเป็นอย่างงั้น” ฉางว่าต่อหลังเห็นไหมทำเฉยๆ

“ทำไม ...” ไหมถาม

ฉางป้องปากพูดเบาๆ

“เน้งบอกฉันว่า วือกำลังเสียใจ วืออกหัก”

“เน้ง ... แฟนเธอน่ะเหรอ เขารู้ได้ไง วือเล่าให้ฟังเหรอ” ไหมแกล้งถามเฉไฉ

“อ้าว เขาเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก มีอะไรเขาก็ต้องบอกกันซิ” ฉางว่าแล้วเล่าต่อ

“ตอนเพื่อนๆเขารู้ว่าผู้หญิงไม่รับรัก พวกเขาพากันยุให้วือฉุด”

ไหมหันขวับจ้องฉางเป๋ง ฉางทำหน้ารู้ทันก่อนบอก

“วือเขาไม่เอาด้วย ... เขาว่าไม่อยากเป็นแบบเหล่ายิ้ง”

 

ฉางว่าพร้อมหัวเราะ ไหมนึกถึงเรื่องของเหล่ายิ้งแล้วอดขำตามไม่ได้

เหล่ายิ้งหนุ่มหล่อประจำหมู่บ้าน พาพรรคพวกไปฉุดสาวต่างบ้านที่หมายตา จนสำเร็จ

แต่สาวเจ้าไม่ปลงใจให้ เธอดื้อแพ่งไม่กินไม่นอน

เอาแต่ร้องไห้จะกลับบ้านท่าเดียว สุดท้ายเหล่ายิ้งจำใจต้องส่งกลับ

วีรกรรมฉุดสาวครั้งนั้น ทำเอาเหล่ายิ้งหลบลี้หนีหน้าชาวบ้าน อยู่นาน

 

“แต่ที่วือพูดกับเน้งส่วนตัวน่ะ ... ฉันคิดว่าเธอต้องรู้นะ จะได้เข้าใจวือดีขึ้น” ฉางพูดจริงจัง

“วือพูดอะไร ...”

“เขาว่า ความรักเป็นเรื่องใจที่ผูกพันตรงกันของคนสองคน เขาจะไม่บังคับใครให้มารัก”

“ถึงผิดหวัง เขาก็จะรักษาแผลใจของเขาเอง”

 

“เธอรับจ้างวือมาบอกฉันเหรอ ...” ไหมถามรวนๆ ทั้งที่ใจนั้นอ่อนยวบ

“เปล่า ฉันเพียงแต่จะบอกความจริงในใจของวือเผื่อเธอจะเข้าใจเขามากขึ้น เท่านั้นแหละ”

 

ฉางกลับไปนานแล้ว

แต่คำพูดหลายคำของเพื่อน ย้ำเตือนให้ไหมรู้สึกผิดต่อเหล่าวือ

ผิดที่ประเมินจิตใจของเขา ... ต่ำค่าเกิน

 

   

 สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท.  โปรดคลิ๊ก  

 

whitebanner