ทางแยก - ไหมลี (๑๔)
หลังวนกลับมาใช้เวลาค่อนเดือนในเขตขาว
แม้จะออกสำรวจพื้นที่กันแทบทุกวัน
แต่ยิ่งใกล้วันนัดหมายกับสหายคำ สิ่งที่ทุกคนจดจ่อกลับเป็น ...
“จัดตั้งจะมีคำชี้แนะยังไงนะ”
“หน่วยเราจะได้ไปเชื่อมต่อเขตพี่น้องมั้ยน้อ ... หรือจะเป็นหน่วยอื่น” บ่ใจเปรยเบาๆ
สหายอมยิ้มด้วยความเอ็นดูน้องน้อยในกลุ่ม
ต่างยังจำคืนสำรวจเส้นทางข้ามถนนครั้งแรกได้
“โห ... รถมีตา ตารถมีไฟด้วย”
เสียงบ่ใจอุทานอย่างตื่นเต้นตอนเห็นรถวิ่งผ่านจุดซุ่ม
บ่ใจเป็นเด็กหนุ่มลัวะที่เกิดและเติบโตในป่า ทั้งชีวิตไม่เคยสัมผัสเมืองแม้สักครั้ง
“อยากข้ามถนนไปฝั่งโน้นบ้าง ใช่ไหม”
สหายดงถาม บ่ใจผงกหัวยิ้มกว้าง
“เจอสหายคำวันไหนก็รู้วันนั้นแหละ ว่าแต่ข่าวศัตรูจากพ่อไหมก็น่าลุ้นนา” สหายดงว่า
ก่อนถึงวันนัดกับสหายคำ ...
หลังการสืบสภาพอย่างเข้มงวด มีเพียงมุ่งและสหายไฟขึ้นไปคุยกับพ่อไหม
นอกนั้นแยกกันไปซุ่มสังเกตการณ์ตามเส้นทางขึ้นตุ๊บไร่
มุ่งแอบถอนใจโล่งอกที่วันนั้น มีเพียงพ่อไหมคนเดียวอยู่บนไร่
“ผู้พันแวะมาทักทายอยู่นะ แต่แกไม่ถามเรื่องสหายแล้วล่ะ มาคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อย”
พ่อไหมรายงานความคืบหน้าที่ดูเหมือนไม่มีอะไร
แต่สหายไฟสรุปหลังกลับลงมาว่า ...
“ผมว่าผู้พันใช้วิธีเข้าหาชาวบ้านให้เชื่อใจก่อน อีกไม่นานแกคงค่อยๆรุก”
บ่ายวันถัดมา ...
คำชี้แนะของจัดตั้งที่สหายคำนำมาบอก ทำเอาทุกคนลืมเรื่องผู้พันกับพ่อไหมไปเลย
“จัดตั้งให้แจ้งพวกคุณว่า พร้อมเชื่อมต่อกับเขตงานพี่น้องแล้วครับ”
“สื่อสารนัดหมายเรียบร้อยแล้วว่า จะส่งพวกคุณนี่แหละไปพบกับหน่วยงานชายฐานที่มั่นของทางนู้น”
สหายคำระบุวันเวลา พร้อมรหัสสัญญานและบริเวณที่ทั้งสองหน่วยจะพบกัน
“อีกตั้งเดือนหนึ่งแน่ะ ... ผมว่าเราไปทบทวนเส้นทางกันอีกสักรอบ เอาให้ละเอียดให้มั่นใจเต็มที่ดีมั้ย”
สหายธงที่ตื่นเต้นดีใจไม่แพ้ใครเสนอ
“ดีครับ ช่วงรอเวลานี่ต้องปิดลับพบคนให้น้อยที่สุด”
“เอ ... ข้าวสารที่ซ่อนไว้ตรงฐานจรยุทธ์จะพอกินไหม ยังไม่อยากไปขอซื้อกับมวลชนน่ะ”
สหายไฟหันไปถามสหายบ่ใจ ผู้สันทัดการกินอยู่ในป่ารวมทั้งการเก็บซ่อนข้าวสาร
“ถ้าพรุ่งนี้ช่วยกันแบกจากหน่วยสหายคำไปมากหน่อย ก็น่าจะพอ” บ่ใจว่า
เวลาครึ่งเดือนหมดไปกับการทบทวนเส้นทาง ที่แม้จะผ่านการสำรวจมาแล้ว
แต่เพราะป่าคือป่า โดยเฉพาะป่าที่ชาวบ้านเข้ามาหากิน
โอกาสที่จะถูกถางถูกเผาจนจำเค้าเดิมแทบไม่ได้ ย่อมเป็นไปได้
เรื่องสำคัญที่ใช้เวลาและการตัดสินใจในรอบนี้มากที่สุดคือ ... การเลือกจุดข้ามถนน
ระหว่างถนนกับป่าฝั่งนี้ มีสายน้ำใหญ่คั่นกลางตลอดแนว
บางช่วงน้ำคดโค้งเลาะแก่งลึก บางช่วงแก่งตื้นแต่ห่างถนนไกลลิบ
กว่าจะเจอที่ที่เหมาะเจาะในช่วงเวลาข้ามจริง ก็ใช้เวลาหลายคืน
“ผมว่าแก่งนี้แหละ ข้ามง่ายอยู่ใกล้ถนนมีสันภูให้หลบช่วงรอเวลา”
มุ่งกระซิบหารือสหาย
จากพุ่มไม้มองลงไป แก่งหินใหญ่น้อยโผล่กลางน้ำเป็นช่วงๆ
ฟากฝั่งตรงข้าม มีลานกรวดแคบๆทอดต่อกับตลิ่งที่ลาดสูงขึ้นสู่ดงไม้พุ่มหนา
เสียงรถที่นานๆจะวิ่งผ่านดังแว่วพอได้ยิน
ทุกคนพยักหน้าเห็นพ้องต้องกัน
สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท. โปรดคลิ๊ก