ทางแยก - ไหมลี (๑๖)
พ่อหายไปค่อนวัน กลับมาเอาตอนบ่ายแก่ๆแล้ว
“ผู้ใหญ่ชวนกินข้าวด้วย ผู้พันก็อยู่ อยู่กันหลายคน”
พ่อเล่าพลางปาดเหงื่อพลาง หน้าตามีความสุข
ไหมอึกอักอยู่เป็นนาน กว่าจะตัดสินใจเล่าเรื่องที่เหล่าวือบอกให้พ่อกับแม่ฟัง
พ่อนิ่งเงียบ แม่หน้าเสีย ... ไม่มีใครพูดอะไรจนอึดอัดไปหมด
ในที่สุด พ่อก็เอ่ยออกมา
“ไม่เป็นไร ค่อยๆคิด ตอนนี้ก็ระวังๆหน่อยแล้วกัน”
“เออ ... ทำไมวือมาเล่าให้ก้อฟังล่ะ เขาไม่กลัวผู้ใหญ่พ่อเขาดุเอาเหรอ” พ่อหันมาซักไหม
ไหมทำหน้าเก้อไม่ตอบ พ่อชำเลืองดูแม่เหมือนรู้กัน
นับแต่วันที่รู้ว่ากำลังถูกจับตา พ่อกับแม่ผลัดกันไปไร่
ไม่ให้น้องๆโดยเฉพาะน้องชายทั้งสองคนไปด้วย คงมีแต่ไหมที่ไปกับแม่บ้างพ่อบ้าง
“กลัวหม่ากับหลื่อเผลอพูด ...” พ่อว่า
ช่วงนี้งานไร่เบาลง
ข้าวสูงพ้นเอวชูรวงโน้มส่ายล้อลม แต่ละช่อเม็ดข้าวอวบเรียงแถวถี่ยิบ
เปลือกสีเขียวเริ่มแซมทองเรื่อๆ อีกเดือนกว่าๆก็ได้เวลาเก็บเกี่ยวแล้ว
พ่อเพิ่งกลับจากไปนอนเฝ้าไร่
“เมื่อคืนหมูป่ากัดต้นข้าวไปนิดหน่อย เสียดายยิงไม่โดนไม่งั้นวันนี้เราได้กินเนื้อหมูป่ากันละ”
“ข้าวกำลังงาม ฉันว่ามะรืนจะไปนอนเฝ้าอีก ขืนไม่ไปมีหวังหมูป่ายกพวกมากินหมดแน่”
พ่อเล่าไปเช็ดปืนแก๊ปคู่ใจไป ก่อนเปรยกับแม่เรื่องที่กำลังถูกจับตา ...
“ปีนี้สหายคงแวะมาช่วยเกี่ยวข้าว เราคงต้องเล่าเรื่องนั้นให้พวกเขาฟัง”
“ดีเหมือนกัน อยากรู้ว่าพวกเขาจะว่ายังไง” แม่สนับสนุน
“เขาจะช่วยอะไรเราได้” ไหมถาม
“ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ตอบยาก” พ่อว่า
ไหมรู้สึกกังวล แต่พ่อดูไม่เดือดร้อน
“พ่อไม่กลัวเหรอ ...” ไหมถาม
“เราไม่ได้ทำผิดอะไร จะกลัวทำไม ...”
“อ้าว ... ก็เราติดต่อพวกสหาย แล้วไม่ยอมบอกพวกทหาร” ไหมว่า
พ่อไม่ตอบทันที วางปืนพิงข้างฝาแล้วหันไปคว้าบ้องสูบยาไม้ไผ่
หยิบซองยาเส้นขลุกขลัก ก่อนจุดไฟ “โห่วโหล่วยิ้ง” (สูบยาเส้น) เสียงยาววว
“เราทำมาหากินในป่า สหายมาหาเราเองเราไม่ได้ดิ้นรนไปหาเขา”
“เขาก็ดีกับเรา ไม่เคยข่มขู่บังคับอะไร ใครดีกับเราเราก็ดีกับเขา ... ก็เท่านั้น”
พ่อพูดง่าย แต่ไหมไม่รู้สึกว่ามันจะง่ายขนาดนั้น
แม่ที่ดูจะคิดคล้ายๆพ่อ รีบตัดบท
“พวกสหายก็แค่ผ่านไปผ่านมา นานๆก็แวะมาช่วยทำไร่สักที ... ไม่เห็นจำเป็นต้องบอกใคร”
“พ่อกับแม่ไม่กลัวถูกจับไปซ้อมเหรอ ดีไม่ดีถูกเอาไปขังคุกนา” ไหมหยังเชิงต่อ
“โอย ... เอาแต่กลัวยังงี้ ปีหน้ามิต้องหนีไปหาที่ทำไร่ใหม่กันเหรอ เหนื่อยตายพอดี”
พ่อส่ายหน้า ...
“อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเกินไป ...ไว้เจอพวกสหายก่อน ดูว่าเขาจะว่ายังไง”
ตั้งแต่มีเรื่องพ่อถูกจับตา
จิตใจที่เคยคิดถวิลหา อยากพบเจอใครคนนั้นเบาบางลง
เบาบางและปนเปไปด้วยความหวั่นไหวกับทุกครั้งที่นึกถึงบ่ายวันนั้น บนไร่ข้าว
สีหน้าท่าทางที่ดูเคร่งเครียด จริงจัง
สายตาที่สบกัน เหมือนมีความกังวลต่างจากก่อนนั้นที่ดูสดใส
เกิดอะไรขึ้นกับเขา จะว่าหมางเมินก็ไม่ใช่ จะว่าไม่ใส่ใจก็ไม่เชิง
แต่คล้ายมีช่องว่างที่ขยับ ... ออกห่าง
สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท. โปรดคลิ๊ก