คอลัมน์ “ชวนมาอ่าน” ทำไมปรีดีจึงลี้ภัยไปจีน
โดย “ดอกไม้ป่า”
งานเขียนชิ้นล่าสุดของ ดิน บัวแดง อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่อง ทบทวนเรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมืองในจีน และการลี้ภัยไปยังฝรั่งเศสของปรีดี พนมยงค์ (1948-1970) ผ่าน “เอกสารปรีดี” ที่หอจดหมายเหตุกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศส เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2024 ได้พูดถึง เหตุผลที่ปรีดีลี้ภัยไปจีนแทนที่จะไปประเทศอื่น หรือประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่แรก
ดิน บัวแดง แบ่งเวลาของปรีดีในจีนเป็น 3 ช่วง ตามแนวทางการเคลื่อนไหวของปรีดี ดังนี้
ช่วงที่ 1 แนวทางการแสวงหากองกำลัง ระหว่างปี 1948-1955
ช่วงที่ 2 แนวทาง “การเมือง” และความพยายามแยกตัวเป็นอิสระจาก พคจ. ระหว่างปี 1956-1963
ช่วงที่ 3 ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองกับความพยายามออกจากจีน ระหว่างปี 1964-1970
ทั้งนี้ ดินประสงค์จะให้สัมพันธ์กับคำถามพื้นฐาน 3 ประการ คือ
ทำไมปรีดีถึงเลือกไปลี้ภัยที่จีน ปี 1947
ทำไมปรีดีถึงย้ายจากปักกิ่งไปกวางโจว ปี 1956
ทำไมปรีดีถึงย้ายไปลี้ภัยที่ฝรั่งเศส ปี 1970
ช่วงที่ 1ระหว่างปี 1948-1955
ดินมองว่าเหตุผลหลักที่ปรีดีเลือกไปจีน น่าจะเป็นเพราะต้องการต่อสู้ด้วยกองกำลังเพื่อโค่นล้มรัฐบาล
ปี 1949 ปรีดีพ่ายแพ้ใน “กบฏวังหลวง” เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ พรรคคอมมิวนิสต์จีน ปลดปล่อยสำเร็จ มีเงื่อนไขที่จะเอื้อต่อแนวทางของปรีดี 2 ประการ
ประการที่ 1 นโยบายต่างประเทศที่สอดคล้องกันระหว่าง การสร้างแนวร่วมของชาติเล็กๆ ในเอเชียเพื่อต่อต้านจักรวรรดินิยม ของปรีดี กับการต้องการสนับสนุนการปลดแอกของชาติเล็กต่างๆในเอเชียจากจักรวรรดินิยม ของ พคจ.
ประการที่ 2 ปรีดีมีความเชื่อว่า การต่อสู้ทางการเมืองต้องมาพร้อมกับการต่อสู้ด้วยกองกำลัง ปรีดีมองว่าจีนคอมมิวนิสต์น่าจะให้การสนับสนุนตนในเรื่องนี้
แต่ทว่า จีนไม่สนับสนุนกองกำลังอิสระเพื่อก่อรัฐประหารของปรีดี กลับพยายามผลักดันให้ปรีดีทำ “แนวร่วม” กับพรรคคอมมิวนิสต์ไทย ยอมรับการนำ นโยบาย และยุทธศาตร์ของ พคจ.และ พคท. แน่นอนว่าปรีดีปฏิเสธ สถานะของปรีดีระหว่างปี 1950-1953 จากคำบอกเล่าของ เฉียบ อัมพุนันท์ จึงแทบจะเป็น “นักโทษ” ของรัฐบาลจีน แต่พอถึงปี 1953 สถานการณ์ก็คลี่คลายลง ปรีดียอมรับเงื่อนไขการเป็น “แนวร่วม” ของ พคท. มีการตั้งศูนย์ฝึกกำลังคนของกลุ่มปรีดีที่จีน มีการตั้งฐานที่มั่นทางตอนเหนือของประเทศไทย แต่ในความเป็นจริงปรีดีได้ “สูญเสียการนำ” ด้านกองกำลังให้แก่ พคท.ไปแล้ว เพราะต่อมากองกำลังเหล่านี้กลับขึ้นต่อ พคท. และ พคจ. ทั้งหมด ทำให้ปรีดีตกอยู่ในฐานะ “ถูกแย่งมวลชน” ด้วย ปรีดีได้กลายเป็นเพียง “สัญลักษณ์” ของการเคลื่อนไหว เป็นแขกของรัฐบาลจีน และเป็นตัวแทนของรัฐบาลไทยในงานเฉลิมฉลองต่างๆ
ช่วงที่ 2 ระหว่างปี 1956-1963
ปี 1956 ปรีดีย้ายจากปักกิ่งไปกวางโจว สาเหตุหลักน่าจะเป็น เพราะปักกิ่งเป็นศูนย์กลางของ พคจ. ที่สนับสนุน พคท.อย่างเต็มที่ คึกคักไปด้วยกลุ่มต่างๆ เช่น แนวร่วมของพโยม จุลานนท์, กรรมการกลางของพคท.ที่ทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานของรัฐบาลจีน, กลุ่มหนุ่มสาวไทยเชื้อสายจีนในโรงเรียนเป่ยจิงหัวเฉียวผู่เสี้ยว, กลุ่มนักศึกษาในสถาบันลัทธิมาร์กซ รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างจีนกับโซเวียตเริ่มทวีความแหลมคม ประกอบกับบ้านที่เคยอยู่ถูกเวนคืน ปรีดีจึงย้ายไปกวางโจว เท่ากับสิ้นสุดการสนับสนุนกองกำลังอิสระจากจีน ในช่วงนี้ปรีดีหันมาต่อสู้ในทาง “การเมือง” มากขึ้น พยายามเป็นอิสระจากพคท.และพคจ. ยุติบทบาทในองค์การแนวร่วมที่ให้การต้อนรับแขกต่างประเทศที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์แทนรัฐบาลจีน ปี 1955-1956 สนับสนุนให้ เฉียบ อัมพุนันท์ กลับประเทศและตั้งพรรคศรีอารยเมตไตรย เตรียมเข้าสู่สนามเลือกตั้งในปี 1957
แต่ปี 1957 สฤษดิ์ทำรัฐประหาร จอมพลป.ต้องลี้ภัย แผนการรื้อฟื้นกรณีสวรรคตและต่อสู้ด้วยแนวทาง “การเมือง” ของปรีดีล้มเหลว แนวร่วมในประเทศถูกจับกุมปราบปราม บทบาทของปรีดีในช่วงนี้จึงน้อยมาก
ช่วงที่ 3 ระหว่างปี 1964-1970
มีจุดเปลี่ยน 3 ประการที่ทำให้ปรีดีตัดสินใจจะออกจากจีน
ประการที่ 1 ฝรั่งเศสพ่ายแพ้ที่เดียนเบียนฟูและอัลจีเรีย เริ่มถอยห่างจากความเป็นจักวรรดินิยม และเริ่มมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน ทำให้สหรัฐอเมริกาไม่พอใจ ปรีดีน่าจะเห็นว่าฝรั่งเศสเป็นกลางมากขึ้น ตรงกับแนวทางการเมืองเป็นอิสระจากจักรวรรดินิยมของตน จึงพยายามติดต่อขอลี้ภัยไปฝรั่งเศส
ประการที่ 2 ปี 1965 สหรัฐอเมริกาทำสงครามกับเวียดนามโดยมีไทยเป็นพันธมิตรหลัก จะกลับประเทศในเวลานี้ไม่ได้แน่นอน ด้านกลับ สงครามเวียดนามทำให้จีนยิ่งหนุน พคท.มากขึ้น บีบคั้นให้ปรีดีร่วมมือกับกลุ่มของพโยมที่เป็นแนวร่วมของ พคท. แต่ต่อมา พคท.ก็เข้ามายึดและนำแนวร่วมนี้โดยตรง ทำให้ปรีดียอมรับไม่ได้
ประการที่ 3 จีนเข้าสู่ “ก้าวกระโดดไกล” ตามมาด้วยการปฏิวัติวัฒนธรรม ประเทศจีนวุ่นวายสับสนและอันตราย ปรีดีถูกจำกัดพื้นที่ ผู้ปฏิบัติงานจีนที่เคยติดต่อสัมพันธ์หายหน้า บรรยากาศเช่นนี้ทำให้ปรีดีดิ้นรนที่จะออกจากจีน มีเป้าหมายที่ประเทศฝรั่งเศส
งานเขียนชิ้นนี้ของอาจารย์ดิน บัวแดงมีทั้งหมด 53 หน้า ปรับปรุงจากเรื่อง “ว่าด้วย เอกสารปรีดี ที่ชานกรุงปารีส : การลี้ภัยของปรีดีจากจีนสู่ฝรั่งเศส” ครอบคลุมในเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. บริบทของการลี้ภัยทางการเมืองของปรีดี พนมยงค์และครอบครัว
2. เวลาสามช่วงของปรีดีในจีน
3. การลี้ภัยของปรีดีจากจีนสู่ฝรั่งเศสผ่าน “เอกสารปรีดี” ที่หอจดหมายเหตุกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส
และ บทส่งท้าย : ความสำคัญของหลักฐานฝรั่งเศส
ในที่นี้ทำบทคัดย่อแต่เฉพาะบทที่ 2 เพื่อตอบข้อสงสัยเสมอมาว่า
ทำไมปรีดีจึงลี้ภัยไปจีน
ปรีดีขอกองกำลังติดอาวุธจากจีนเพื่อยึดอำนาจจากรัฐบาลไทยจริงหรือ
ปรีดีเป็นคอมมิวนิสต์หรือเปล่า
ปรีดีมีความสัมพันธ์อย่างไรกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทย
ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่อยู่ในข้อเขียนชิ้นนี้ ซึ่งก็เชื่อมโยงอยู่ด้วยกันนั้น ขอเชิญชวนให้อ่านจากบทเต็มที่ลงไว้ให้แล้ว
สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท. โปรดคลิ๊ก