สถานีข่าวเสียงประชาชนแห่งประเทศไทย หรือ สปท.ในยุคปัจจุบัน จะนำเอาเนื้อหาบางตอนของหนังสือ “ที่นี่…สถานีวิทยุเสียงประชาชนแห่งประเทศไทย” ที่จัดทำโดย กลุ่มเพื่อน สปท. ซึ่งตีพิมพ์ไปเมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๕ มาลงให้เพื่อนมิตรอ่านในไลน์กลุ่ม ส.ป.ท. ติดต่อกันไปเป็นตอน ๆ โดยเริ่มจากเรื่อง “อันเสียงที่มีพลังดังจากไหน” ซึ่งเป็นเรื่องราวประวัติการก่อตั้ง การดำเนินงาน และการสิ้นสุดบทบาทของ สปท. ในฐานะสื่อวิทยุที่มีอิทธิพลต่อความคิด และการต่อสู้ของประชาชนเป็นเวลายาวนานถึง ๑๗ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ จนถึง วันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๒

 

อันเสียงที่มีพลังดังจากไหน

 ตอนที่ ๓   ว่าด้วย สหายไฟ หรือัศนี พลจันทร

สหายไฟหรืออัศนี พลจันทร อดีตอัยการชั้นโทผู้มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในฐานะนักเขียนและกวีของประชาชน ในช่วงก่อนการจัดตั้งสปท. สหายไฟได้รับเลือกเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกลางพคท. และได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบสปท.ในเวียดนามตั้งแต่แรกตั้งร่วมกับสหายบิญ โดยเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการพิจารณาเนื้อหาของรายการ แต่บทบาทที่สำคัญยิ่งของท่าน คือการถ่ายทอดประสบการณ์ในการเขียนบทความ เรื่องสั้น รวมทั้งบทกลอน ฯลฯ และฝึกสอนผู้ปฏิบัติงานหนุ่ม/สาวในสปท.ช่วงนั้น ให้มีความรู้และทักษะในการเขียนทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง ประเภทต่างๆ สืบต่อมา
สหายลินผู้ที่เคยได้รับคำแนะนำสั่งสอนจากสหายไฟโดยตรงเล่าให้ฟังว่า ปกติแล้วงานประจำของเขา คือการพิมพ์ต้นฉบับที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และต้องพิมพ์ด้วยความรวดเร็วให้เสร็จทันกำหนดทุกวัน สหายไฟได้แนะนำว่า สหายไม่ควรหยุดอยู่แค่งานพิมพ์ดีด แต่ควรจะลองฝึกเขียนงานด้วยตนเองดู โดยแนะนำให้เริ่มต้นจากการเขียนบทความ บทวิจารณ์ เมื่อสหายลินลองเริ่มเขียนงานตามคำแนะนำนั้น สหายไฟก็ช่วยตรวจ ช่วยแก้ไขขัดเกลาสำนวนให้ รวมทั้งได้ตั้งนามปากกาให้ด้วยว่า “ขวานโบราณ”
นอกจากการฝึกฝนผู้ปฏิบัติงานแล้ว สหายไฟยังได้ใช้ความสามารถในการประพันธ์ของท่าน เขียนบทความชิ้นแรกให้สปท.นำไปออกอากาศ บทความชิ้นนั้นมีชื่อเรื่องว่า “อันเป็นภาวะสุดแสนทนทานได้” เป็นที่น่าเสียดายมากว่า ปัจจุบันยังไม่สามารถค้นหาต้นฉบับหรือกระทั่งสำเนาของบทความชิ้นนี้ได้เลย
ผลงานของสหายไฟซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางอีกชิ้นหนึ่ง ในบรรดางานเขียนที่ทรงคุณค่ามากมายของท่านที่มอบให้กับวงการวรรณกรรม คือบทเพลงอมตะชื่อ “คิดถึงบ้าน” หรือที่รู้จักกันในเวลาต่อมาในชื่อเพลง “เดือนเพ็ญ” นั่นเอง ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสหายไฟแต่งเพลงนี้ในวันที่เท่าไหร่ แต่สหายผู้ปฏิบัติงานในสปท.ประมาณไว้ว่าน่าจะแต่งขึ้นในช่วงก่อนเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2506 (ค.ศ.1963) ซึ่งเป็นช่วงที่สหายไฟอยู่ในสปท.ที่เวียดนามก่อนที่จะย้ายไปปฏิบัติงานที่อื่นนั่นเอง และต่อมาเพลงนี้ก็ได้กลายเป็นเพลงที่สหายหญิงในสปท.หลายคนร้องเพื่อคลายความคิดถึงบ้าน และร้องบนเวทีเมื่อมีงานเลี้ยงภายในสถานีในช่วงเวลานั้นอยู่บ่อยๆ
ด้วยความรู้ความสามารถทางอักษรศาสตร์ไทย และการแปลภาษาต่างประเทศของท่านนี่เอง เมื่อสหายไฟปฏิบัติงานที่สปท.ได้ประมาณปีเศษ คือในปลายปีพ.ศ. 2506 (ค.ศ.1963) ท่านก็ได้รับภาระหน้าที่ใหม่จากพรรค ให้เดินทางไปเข้าร่วมกับสหายอีก 2 ท่านในทีมแปลสรรนิพนธ์เหมาเจ๋อตง ที่กรุงปักกิ่ง โดยมีสหายนพมารับช่วงการเป็นบรรณาธิการสปท.แทนนับตั้งแต่นั้น

 

 

 

 

 

   

 

โปรดติดตามและมีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท.  โปรดคลิ๊ก  

whitebanner