ชมคลิปประกอบบทอ่าน คนไม่สำคัญ ที่สำคัญ........“ตำนานสหายสายส่งเดินเมล์”
คนไม่สำคัญ ที่สำคัญ........“ตำนานสหายสายส่งเดินเมล์”
โดย มหา ประชาหาญ
ภารกิจที่เสี่ยงชีวิตอย่างสาหัสที่สุดอีกภารกิจหนึ่ง ในการทำงานให้กับขบวนปฏิวัติ คือ การทำงานสายส่งเดินเมล์ หากถูกศัตรูพบเห็นจับได้ แน่นอน นั่นย่อมหมายถึงการสละชีวิต.
สหายหมอก (นามสมมุติ) เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า “ทุกครั้งที่จัดตั้งมอบหมายให้ไปทำงาน เตรียมทำใจไว้เลยว่า หากถูกศัตรูจับได้ ตายสถานเดียว”
หนักหนาขนาดนั้นเลยหรือ แน่นอนหากศัตรูจับได้ มันจะต้องทรมาน รีดข่าวสาร สืบหาสายสัมพันธ์ของการจัดตั้งอย่างละเอียด เมื่อคุณไม่ขายสหาย ไม่ขายจัดตั้ง คุณก็ต้องยอมตาย
ตลอดยี่สิบกว่าปีของการทำงาน สหายหมอกครองตัวเป็นโสด ไม่มีครอบครัว ไม่มีห่วง ไม่มีภาระ
ต่อเมื่อ พคท. ล่มสลาย เขาจึงคิดมีครอบครัว มีลูกเต้าสืบสกุล
……….
พคท. หาคนมาทำงานสายส่งเดินเมล์ที่กล้าหาญระดับนี้ได้อย่างไร ?
และนี่คือเรื่องของ สหายหมอก ตัวอย่างหนึ่งของผู้กล้าในขบวนสายส่งเดินเมล์ที่อยู่รอดปลอดภัย จนมาเล่าเรื่องนี้ได้
“มิตรสหายคนอื่น ผมไม่ทราบชัด ส่วนผมนั้น สนใจข่าวบ้านการเมืองตั้งแต่เป็นวัยรุ่น คุณครูโรงเรียนจีนที่ผมเรียนหนังสือ คงจะเห็นอะไรในตัวผม จึงได้มาใกล้ชิดสนิทสนม คอยให้การศึกษา สอนให้ผมเห็นและเข้าใจปัญหาบ้านเมืองอยู่เรื่อย ๆ
งานของผม เริ่มจากช่วยส่งจดหมายบ้าง เอกสารบ้าง ตามที่คุณครูมอบหมาย
พอผมย้ายเข้ากรุงเทพฯ คุณครูก็ย้ายมาสอนที่กรุงเทพฯเหมือนกัน เราสนิทกันมากขึ้น ได้พบปะแลกเปลี่ยนปัญหาบ้านเมืองความรู้ความเข้าใจทางการเมืองกันใกล้ชิดยิ่งขึ้น
แล้วผมก็ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยเมล์ ทำหน้าที่ส่งเอกสาร อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ ยารักษาโรค เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ตลอดจนคนที่เข้าและออกจากเขตงานต่าง ๆ การขับรถเป็น ทำให้งานของผมขยายกว้างขึ้น จัดตั้งเริ่มมอบหมายให้ผมไปส่งอุปกรณ์ข้าวของและผู้คนบ่อยขึ้น ระหว่างปี 2512 – 2513 ผมส่งคนและข้าวของเข้าฐานที่มั่นภูหินร่องกล้าและเขาค้อแทบจะทุกเดือน ต่อมายังขยายไปทางเขตจังหวัดน่าน เชียงราย และพะเยาด้วย
งานสายส่งเดินเมล์มีแทบจะทุกเดือน ผมต้องเลือกทำงานอาชีพอิสระ จึงจะมีเวลาปฏิบัติภารกิจที่จัดตั้งมอบหมายได้ไม่ผิดเวลา ไม่ผิดพลาด
มิตรสหายหลายคนผลัดกันมาเป็นเพื่อนร่วมเดินทาง โดยมีผมยืนเป็นหลัก และคอยเป็นพี่เลี้ยงประคับประคองคนใหม่ ๆ ถ่ายทอดบทเรียนเบื้องต้นตามที่ตนเองได้รับมาจากการปฏิบัติที่เป็นจริง งานนี้ต้องมีไหวพริบปฏิภาณ ต้องรู้ว่าจะส่งเอกสารได้อย่างไร ด้วยวิธีใดจึงจะปลอดภัยถึงที่หมาย และตัวเองก็รอดปลอดภัย ผมสั่งสมประสบการณ์จากการทำงานนี้ติดต่อกันนานหลายปี
หน่วยงานนี้ไม่เคยมีหน่วยจัดตั้งที่สรุปบทเรียน หรือสอนวิธีการทำงานอย่างเป็นระบบ มันเป็นเรื่องการใช้ไหวพริบปฏิภาณเฉพาะตัว ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแต่ละครั้งล้วน ๆ
การปิดลับสุดยอดเท่านั้นที่จะทำให้เราปลอดภัย และบรรลุภารกิจ การปิดลับนี้เองที่ทำให้เราไม่สนิทสนมกับมิตรสหายร่วมทางคนไหน พบกันร่วมเดินทางด้วยกัน แล้วลาจากกันเมื่อจบภารกิจ
ก่อนไปปฏิบัติงานแต่ละครั้งจะต้องเตรียมตัวอย่างรอบคอบ นอกจากปิดลับอย่างยิ่งยวดแล้ว ความระมัดระวังก็ต้องสูงยิ่ง ทำการบ้านเรื่องเส้นทางเลือกต่าง ๆ พร้อมเหตุผลและคำอธิบายให้ครบครัน ไม่มีช่องโหว่ให้ศัตรูจับได้ ผมทำงานนี้หลายปี ไม่เคยถูกจับกุม ไม่เคยโดนด่านตรวจรถอย่างละเอียด เมื่อจอดแวะพักรถ หรือเติมน้ำมัน ผมจะตีสนิทพูดคุยกับเด็กปั๊มและเจ้าของปั๊มน้ำมัน จนคุ้นเคยสนิทสนมกัน ผู้จัดการปั๊มแห่งหนึ่งในตัวเมืองพิษณุโลก ถึงกับคุยให้ผมฟังว่า เขาไม่ใช่ผู้จัดการปั๊มน้ำมันธรรมดา แต่เป็นนายทหารยศร้อยเอกที่ทางการส่งมาสอดส่องตรวจตรารถน่าสงสัย แล้วส่งวิทยุรายงานให้ด่านสกัดจับ
ใช่ครับ ไม่ใช่มีแต่ฝ่ายปฏิวัติที่วางคนไว้ตามจุดสำคัญต่อเนื่อง ศัตรูก็วางคนไว้ตามจุดที่เราต้องผ่านเช่นกัน ผมจึงได้แต่เตือนมิตรสหายที่ทำงานสายงานนี้ ให้ระมัดระวังรอบคอบมากถึงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
การปฏิบัติภารกิจทุกครั้งแต่ละคนจะเครียดมาก ๆ บางคนเครียดขนาดผมร่วงเป็นกระจุก และจำต้องขอเปลี่ยนภารกิจ แต่ผมซึ่งอาจจะทำงานบ่อย และไม่เคยพบสถานการณ์ที่แก้ไม่ได้สักครั้งเดียวจึงไม่รู้สึกเครียดสักเท่าไหร่
ถ้าถามว่า ในสายงานนี้เคยมีคนขายตัวทรยศหักหลังเปิดเผยความลับไหม สายส่งเดินเมล์อื่น ๆ ผมไม่ทราบ แต่สายที่ผมทำงานไม่มีใครทรยศหักหลังมิตรสหายเลยสักคนเดียว
ทั้งนี้ ผมเข้าใจว่าเป็นความเก่งกาจของจัดตั้ง เพื่อกระจายความเสี่ยงและเปิดช่องทางเลือกหลายช่องทาง งานสายส่งเดินเมล์จึงถูกแบ่งออกเป็นหลาย ๆ สาย และไม่ข้ามสายกันเด็ดขาด ผมไม่รู้จักสายอื่น และสายอื่นก็ไม่รู้จักผม เราจึงสามารถรักษาความลับ รวมทั้งรักษากำลังส่วนใหญ่ของเราเอาไว้ได้ จวบกระทั่งพรรคฯล่มสลาย ทุกคนออกจากป่า งานทุกอย่างจึงได้เลิกไป และผมได้ใช้ชีวิตตามปกติคนธรรมดาสามัญ มีครอบครัว มีกิจการงานเลี้ยงดูตัวเอง ครอบครัว ช่วยเหลือเพื่อนฝูง ญาติมิตร เดินทางท่องเที่ยวตามสมควร”
………
เดือนตุลาคม 2524 สหายสายส่ง 2 คนถูกสกัดที่ด่านโป่งแยงแล้วหายสาบสูญ
รถ 2 คันขับมาจากกรุงเทพฯมุ่งหน้าไปฐานที่มั่นภูหินร่องกล้า คันแรกเป็นรถกระบะบรรทุกคนเพื่อส่งขึ้นฐานที่มั่น คันที่สองเป็นรถหกล้อใหญ่ บรรทุกอุปกรณ์เครื่องส่งวิทยุ สำหรับการเปิดสถานีวิทยุ สปท.แห่งใหม่บนฐานที่มั่นภูหินร่องกล้า พร้อมอุปกรณ์ประกอบ และยุทธปัจจัยอื่น ๆ เต็มคันรถ
ทั้งสองคันไม่ได้มาพร้อมกัน แต่จะไปด้วยกัน เป้าหมายเดียวกัน จุดนัดพบแรกคือนครสวรรค์ ปรากฏว่าคลาดกัน จุดนัดพบที่สองในเมืองพิษณุโลกยังคลาดกันอีก รถกระบะจึงล่วงหน้าไปส่งคนขึ้นฐานที่มั่นโดยปลอดภัย แล้วเดินทางกลับ ส่วนรถหกล้อถูกสกัดที่ด่านโป่งแยง คนขับรถและเพื่อนร่วมเดินทาง ชื่อสหายเลิศ (นามสมมุติ) และสหายผิง (นามสมมุติ) หายสาบสูญไม่พบร่องรอยตราบจนบัดนี้
สหายเล็ก (นามสมมุติ) ผู้ขับรถกระบะกลับถึงกรุงเทพฯแล้ว ยังไม่เห็นรถหกล้อกลับมา ด้วยความเป็นห่วงมิตรสหาย ล่วงพ้นสองสามวันจึงชักชวนสหายสิน (นามสมมุติ) ย้อนกลับไปสืบเสาะร่องรอย จึงถูกจับกุมที่สามแยกโป่งแยงไปอีก 2 คน และหายสาบสูญไปพร้อมรถกระบะเช่นกัน
หลังจากนั้น ทหารได้มาตรวจค้นที่บ้านสหายเล็กแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ถามหาผู้คนที่เคยพักอาศัยในบ้าน เป็นไปได้ว่า ทหารได้ติดตามสะกดรอยและเฝ้าดูสหายเล็กมาระยะหนึ่งแล้ว ครั้งนี้อาจเป็นการเสียลับและปล่อยสายผ่อนยาวของฝ่ายนั้น
………..
วันที่ 25 มิถุนายน 2526 สหายภูผา (นามสมมุติ) และสหายน้อย (นามสมมุติ) ถูกจับพร้อมมิตรสหายอีก 7 คน รวม 9 คน ที่ด่านห้วยน้ำอุ่น ช่วงรอยต่อแพร่ - น่าน แล้วหายสาบสูญ ไม่สามารถสืบเสาะร่องรอยได้จนถึงปัจจุบัน ทหารตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องปฏิเสธ ไม่รู้ไม่เห็นไม่ทราบ ไม่มีบันทึกการจับกุม
สหายภูผากับสหายน้อย ปฏิบัติภารกิจส่งยุทธปัจจัยขึ้นฐานที่มั่นจังหวัดน่านได้สำเร็จ ขากลับรับสหายจากฐานที่มั่นกลับลงมา 7 คน ขณะผ่านด่านห้วยน้ำอุ่น มีสหายทรยศชื่อสหายมกราชี้เป้าว่าทั้ง 9 คนเป็นชาวคอมมิวนิสต์จังหวัดน่าน ทั้งหมดจึงถูกจับกุม และหายสาบสูญ แม้ขณะนั้นจะมีประกาศ 66/2523 ของรัฐบาลพลเอกเปรมแล้ว และมิตรสหายนักศึกษากรรมการชาวนาชาวไร่บนพื้นที่ราบ เริ่มทยอยกลับออกจากฐานที่มั่น แต่ฝ่ายทหารยังปฏิบัติการบังคับสูญหายโดยไม่สนใจนโยบาย 66/2523
ก่อนหน้าการจับกุมครั้งนี้ ทหารได้เปิดปฏิบัติการ “ยุทธการสุริยพงษ์ 4” เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2526 โดยใช้กำลังทหารพรานค่ายปักธงชัย 6 กองร้อย 1 ฐานยิง บุกเข้ายึดฐานที่มั่นบริเวณบ้านห้วยโก๋น อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ปรากฏว่าทหารพรานล้มตายนับร้อย แต่หลังจากนั้น กลับมีคนทรยศเข้ามอบตัว และขายตัว ทำงานเป็นคนชี้เป้าให้ฝ่ายทหารจับกุมคณะคุณภูผาถึง 9 คน นับเป็นความสูญเสียที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของสายงานนี้
………
มีเหตุการณ์มากมายที่เคยเกิดกับสหายสายส่งเดินเมล์ หลายคนไม่มีโอกาสได้กลับมาบอกเล่า แต่ก็มีหลายคนที่ผ่านมาได้ อย่างเช่นสหายสมพร (นามสมมุติ)
“ครั้งหนึ่งที่จังหวัดน่าน โพล้เพล้แล้ว ผมขนส่งข้าวสารและอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ใส่ท้ายรถกระบะ ขณะขับรถลงจากสะพานแม่น้ำน่าน พบตำรวจตั้งด่านลอยพิเศษ สกัดรถไว้แล้วสอบถามว่าจะไปไหน ขอตรวจบัตรประชาชน ผมพยายามควบคุมสติ พูดคุยสนทนาเป็นภาษาเหนือ บอกไปว่าจะเอาของไปฝากคนงานที่ไร่ บังเอิญวันนั้นผมพาแฟนติดรถไปด้วยจึงขยิบตาทำเป็นกระซิบกระซาบว่า กำลังจะพาสาวไปนอนรีสอร์ทข้างหน้า ตำรวจคนนั้นยิ้มทำท่ารู้ทัน แล้วปล่อยผมไป”
“อีกครั้งหนี่งบริเวณทางขึ้นเขาค้อด้านนางั่ว เราขับรถไปกัน 2 คัน คันหนึ่งเป็นรถกระบะบรรทุกยุทธปัจจัย อีกคันเป็นรถตู้บรรทุกคนจำนวนหนึ่งส่งขึ้นเขาค้อ ผมขับรถตู้ไปก่อน พอถึงจุดนัดพบ ส่งคน ส่งของเสร็จเรียบร้อย ผมก็เปลี่ยนมาขับรถกระบะแล้วออกมาก่อน ชั่วไม่กี่ลมหายใจ ได้ยินเสียงปืนดังลั่นป่า…
เกิดปะทะกันแล้ว ไม่ทราบสหายปลอดภัยหรือไม่ รถตู้หนีออกมาทันไหม ?
ผมทิ้งระยะไปราวครึ่งชั่วโมงจึงวกรถกลับเส้นทางเดิม พบทหารนอนตายสองสามศพ รถตู้ยังจอดอยู่ที่เดิม ส่วนมิตรสหายล่องหนหายไปจากจุดเกิดเหตุแล้ว โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง แต่รถตู้เป็นชื่อผมคนเช่า ทำยังไงล่ะครับ
ผมต้องหลบซ่อนตัวอยู่นาน ทหารมาตรวจค้นบ้าน ถามแม่ แต่แม่ตอบว่าไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ทำอะไร เพราะไม่ค่อยได้กลับบ้าน จึงรอดมาจนถึงวันนี้”
…………..
เรื่องราวของสายส่งเดินเมล์ที่ปฏิบัติภารกิจเสี่ยงชีวิตเพื่อส่งยุทธปัจจัยและคน ขึ้น-ลงบนฐานที่มั่น ติดต่อส่งสารอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของเขตต่อสู้ด้วยอาวุธของ พคท. เป็นภารกิจที่ปิดลับสุดยอด มิตรสหายจำนวนหนึ่งเสียสละชีวิตจากการทำงานเพื่อให้ขบวนปฏิวัติดำเนินไปได้ มิตรสหายบนฐานที่มั่นมีอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น พวกเขาเหล่านี้ไม่มีชื่อเสียงเรียงนาม ไม่มีเหรียญตรา ไม่มีเงินสนับสนุนจาก พคท. หรือหน่วยงานอื่นใด ทุกคนปฏิบัติภารกิจด้วย “ใจ” ปฏิวัติที่เข้มแข็งกล้าหาญเพียงประการเดียว
ขอสดุดีนักรบนิรนาม คนไม่สำคัญที่สำคัญในภารกิจปฏิวัติ
ขอแสดงคารวาลัยในโอกาสครบรอบ 48 ปี 6 ตุลา 2519.
สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท. โปรดคลิ๊ก