ปรัชญากันเอง (1)......ปรัชญากับสังคมไทย

โดย “เสรี พพ” 

     ไม่ได้หนีการเมือง  ตรงกันข้าม ต้องการให้เกิดความคิดเชิงวิพากษ์ (critical thinking) ในสังคม ซึ่งต้องการ “ความคิดเชิงนามธรรม” หรือ “มโนทัศน์” (concepts) เพื่อสร้าง “กรอบคิด” (conceptual framework) ซึ่งมีความสำคัญยิ่งเพื่อให้คน “คิดเป็น” เพื่อให้แยกแยะ (วิเคราะห์) และประมวลสรุป (สังเคราะห์) เป็น

 

 

 

     ไม่มีคอนแซปต์ก็เหมือนคนสร้างบ้านด้วยมือเปล่า ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือ หรือคนจะไปรบ มีเพียงมีดไม้อะไรที่พอหยิบฉวยได้ ไปรบกับคนที่มีอาวุธและฝึกฝนมาย่อมสู้เขาไม่ได้

 

 

 

     เราบ่นกันว่า การศึกษาไทยไม่สอนวิธีคิด วิธีวิพากษ์ สอนให้ท่องจำ  เด็กไทยโตเป็นผู้ใหญ๋จึงคิดไม่เป็น ปล่อยให้ถูกครอบงำ ถูก “จูงจมูก”

 

 

 

     สองร้อยปีก่อน เอมมานูแอล ค้านท์ นักปรัชญาเยอรมันบ่นว่า “เมื่อไรคนบ้านเราจะตื่นรู้เสียที” หรืออาจแปลว่า “เมื่อไรคนบ้านเราจะหายโง่เสียที” (ค้านท์ใช้คำว่า Aufklaerung แปลว่า รู้แจ้ง)

 

 

 

     มีหลายคำที่ใช้ทำความเข้าใจกับสังคมไทยวันนี้ได้ ผมอยากเริ่มคำแรกว่า “ศักยภาพ” และอยากนำเอาคำที่ผู้อ่านสนใจมาเขียน มีอีกหลายคำ เช่น “วิสัยทัศน์”, “กระบวนทัศน์”, “ความคิดแบบกลไก”, “องค์รวม”, “การตีความ” ฯลฯ

 

 

 

     คอนแซปต์ปรัชญาการเมืองอย่าง “วิภาษวิธี”, “สัญญาประชาคม”, “อำนาจนำ” (hegemony), “ปัญญาชนคนใน” (organic intellectual) ฯลฯ 

 

 

 

     (ใครมีหนังสือ 100 คำที่ควรรู้ของผมก็จะพบคอนแซปต์มากว่าร้อยคำ)

 

 

 

# ศักยภาพ (potential)

 

 

 

     แปลว่า “ความสามารถภายในที่ยังไม่พัฒนา หรือยังไม่พัฒนาเต็มที่” เป็น พลวัต (dynamics) พลังที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

 

 

 

     เฉวียน หงฉาน คือ ตัวอย่างของเด็กน้อยชาวจีนอายุ 7 ขวบที่ครูมองเห็นศักยภาพ ให้โอกาสฝึกฝน จนเป็นแชมป์กระโดดน้ำของประเทศตั้งแต่อายุ 13 และได้เหรียญทองโอลิมปิกที่โตเกียวเมื่ออายุ 14 และที่ปารีสปีนี้อายุ 17 ปี

 

 

 

     หงฉานคือ “ของจริง” ที่ไม่เหมือน “มะม่วงบ่มแก๊ส” ที่ยังไม่สุก เปรี้ยว กึ่งดิบกึ่งดี แต่ยังมีการ (ลงมติ) เอามาเสิร์ฟสังคมไทย  ตัวอย่างของคนที่ไม่มีศักยภาพ หรือมีแต่น้อย ไม่ได้รับการพัฒนามาอย่างเหมาะสม

 

 

 

     ถ้าไปแข่งกระโดดน้ำโอลิมปิกระดับ 10 เมตรแบบหงฉาน อาจตกลงมาหน้าแตกหรือหลังหัก บาดเจ็บสาหัสก็เป็นได้  ไม่รู้ว่าใครจะเอาอะไรไปรับได้ เพราะคนที่ลงแข่งขันต่างก็ได้รับการฝึกฝนและถูกคัดเลือกมาอย่างดี

 

 

 

     ความจริงคำว่า “ศักยภาพ” มีภูมิหลังมาจากปรัชญาของอริสโตเติล ผู้วางรากฐานให้วิชา “ปรัชญา”,  “ตรรกะวิทยา” และวิชาการต่าง ๆ มาจนถึงวันนี้  คำสำคัญ 4 คำของเขา คือ “เนื้อหาและรูปแบบ” (matter & form), “ศักยภาพกับการกระทำ” (potential & act)

 

 

 

     วันหลังจะกลับมาหาสี่คำนี้ ที่เกี่ยวกับวิธีคิดของคน จนมาถึงวันนี้

 

 

 

     19 ส.ค. 67

 

 

 

  

 

 

 

 

 

 

โปรดติดตามและมีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท.  โปรดคลิ๊ก  

whitebanner