บทความส่งเข้าประกวดชิงรางวัล “หนึ่งธันวา“ เรื่องที่ ๑๐ - บันทึกความทรงจำจากการต่อสู้ร่วมกับ พคท....สัญญาเมื่อคืนเดือนเพ็ญ

โดย “ครูส่อง” โรงเรียนชั้นประถม 5/1

 ...น้ำเอยน้ำใจ น้ำใสไหลเย็น ดังซู่ซ่า ล่า ลา ลา ล้า ลา......

เหล่าอนุชนช่วยทหารปลดแอก ซักเสื้อผ้า ลัล ลัล ลัล ลา.......
เข็มเอยเข็ม เข็มน้อยร้อยด้าย สอยไปมา
เหล่าอนุชนช่วยทหารปลดแอก ปะเสื้อผ้า
ลัล ลัล ลัล ลา......... เย็บให้ดี (ซ้ำ) ซักให้สะอาด (ซ้ำ)
เราอนุชนเชื่อฟังพรรค เป็นเด็กปฏิวัติ ตามพรรคไปตลอดกาล.....


เสียงเพลงจากเด็ก ๆ 140 กว่าคน ที่ก้องกังวานไปในหุบเขาของโรงเรียนประถม 5/1 ประมาณต้นปี พ.ศ.2521
ผมยังจำได้ไม่มีวันลืม
ทุกวันในเวลา 1 ทุ่มตรง ครูส่องจะจุดตะเกียงเจ้าพายุ แล้วเป่านกหวีดรวมพลเรียกแถวนักเรียน ตรวจแถว นับจำนวนนักเรียน นำนักเรียนเข้าห้องประชุม ทุกวันจะใช้เวลาประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เริ่มด้วยร้องเพลงร่วมกัน 2-3 เพลง ครูตั้งและครูส่องจะเล่านิทานแฝงคติเตือนใจ หรือเล่าวีรกรรมของวีรชนปฏิวัติ การเคลื่อนไหวปฏิวัติในแนวหน้า การต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมของกรรมกร-ชาวนา นักศึกษาในเมือง หรือบางวันก็จะฝึกร้องเพลงใหม่ ๆ
โรงเรียนชั้นประถม 5/1 เดิมเรียกว่า “โรงเรียนเด็ก A-30” ในบริเวณนี้จะมี 3 หน่วยงานที่อยู่ติดกัน คือ
1. สำนักต้อนรับ (เป็นที่พักชั่วคราวของสหายที่ผ่านทาง เตรียมเดินทางไปแนวหน้า หรือไปแนวหลัง)
2. โรงพยาบาล
3. โรงเรียนเด็ก
ทั้ง 3 หน่วยงานใช้ชื่อร่วมกันว่า “A-30” ตั้งอยู่ที่แขวงหลวงน้ำทา ใกล้ชายแดนลาว-จีน ริมถนนสาย A-3 ปากแบ่ง-บ่เต็น ต่อมาในกลางปี 2519 มีการตั้งสำนักแนวร่วมอยู่ห่างออกไปประมาณเดิน 20 นาที ใช้ชื่อว่า สำนัก A-30 สถานที่ตั้งโรงเรียนจึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น 5/1 มีโรงเรียน โรงพยาบาล และสำนักต้อนรับเหมือนเดิม
โรงเรียนชั้นประถม 5/1 เป็นที่รวมของเด็ก ๆ ลูกหลานนักปฏิวัติ ที่เกิดหรือติดตามพ่อ-แม่ เข้ามาอยู่ในฐานที่มั่น ตั้งขึ้นเมื่อปี 2517 เด็ก ๆ มาจากเขตงานต่าง ๆ จากทั่วประเทศ มีทั้งจากภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคเหนือ
ในปี 2517 เขตงานต่าง ๆ เริ่มขยายออกไปอย่างกว้างขวาง บางเขตก็มีสถานการณ์สู้รบหรือถูกล้อมปราบ ผู้ปฏิบัติงานในเขตแนวหน้าจึงต้องส่งลูกมาไว้ในเขตที่ปลอดภัย พรรคฯได้จัดตั้งสถานที่สำหรับดูแลเด็กเป็น 2 ที่คือ เด็กอายุไม่เกิน 7 ขวบให้อยู่ที่โรงเรียนเด็กเมืองลา เด็กอายุ 7 ขวบขึ้นไปให้อยู่โรงเรียนเด็ก A-30 หรือที่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนชั้นประถม 5/1
ค่ำวันหนึ่งประมาณต้น ๆ ปี 2521 เวลาทุ่มตรง ครูส่องจุดตะเกียงเจ้าพายุ เป่านกหวีดรวมพล เรียกแถวนักเรียน คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง ท้องฟ้าแจ่มใส ครูส่องตกลงกับครูตั้งแล้วว่า วันนี้จะไม่นำนักเรียนเข้าห้องประชุม แต่จะจัดกิจกรรมกลางแจ้ง ในสนามของโรงเรียน
จันทร์เต็มดวง ท้องฟ้ากระจ่าง แสงจันทร์ส่องกระจ่างเห็นกันชัดเจน หลังจากร้องเพลงร่วมกัน 2-3 เพลง ก็เป็นการแข่งวิ่งเปี้ยวระหว่างเด็กหญิงกับเด็กชาย ทุกคนเล่นกันอย่างเต็มที่ไม่มีใครยอมใคร แข่งกันจนเหนื่อยพอได้เหงื่อ ก็เปลี่ยนมาเล่นเกมส์เบา ๆ กันอีก 2-3 เกมส์ เด็ก ๆ สนุกกันมาก ถึงเวลา 2 ทุ่มควรจะเป็นเวลาที่ให้เด็กๆพักผ่อนและเข้านอนตามปกติ แต่ครูส่องและครูตั้งเห็นร่วมกันว่า เด็ก ๆ กำลังสนุกสนานกันเป็นพิเศษ จึงปล่อยให้เด็กทั้งหมดได้เล่นกันอย่างอิสระอีก 1 ชั่วโมง จนกระทั่งเวลาสามทุ่ม ครูตั้งเป่านกหวีดแล้วให้เด็ก ๆ ล้อมวงกันรอบสนามโรงเรียน ครูตั้งและครูส่องยืนอยู่กลางวงล้อมของเด็ก ๆ ครูตั้งสั่งให้เด็ก ๆ กระชับวงเข้ามาใกล้อีก ให้เด็ก ๆ ยืนชิดกันเป็นแถวเรียงเดี่ยวล้อมวงเข้ามา ครูตั้งเริ่มพูดกับนักเรียน
“ต่อไปนักเรียนทุกคนจะต้องเติบโต และเมื่อเรียนจบชั้นสูงสุดคือ ป.6 และอายุ 15 ปี นักเรียนทุกคนจะต้องแยกย้ายกัน เดินทางสู่แนวหน้า ไปปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละคน ครูอยากให้ทุกคนจดจำวันนี้เอาไว้ วันที่เราใช้ชีวิตร่วมกันที่โรงเรียน ดีกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่ในที่สุดเราก็รักกันและสามัคคีกัน เราไม่รู้ว่าเมื่อเราเติบโตและต้องแยกย้ายจากกันไป แล้วจะมีโอกาสได้กลับมาพบกันอีกหรือไม่ แต่ครูอยากให้ทุกคนจดจำกันไว้ว่า เราเคยกิน นอน เรียน เล่นและเติบโตมาด้วยกัน ภายใต้การดูแลของพรรคและครูทุก ๆ คน เมื่อเราต้องแยกย้ายกันไป วันไหนที่เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง ขอให้เรามองดูดวงจันทร์ และคิดเสมอว่า เราทุกคนต่างกำลังมองและส่งใจคิดถึงกัน คิดถึงกันไม่มีวันลืม”
เด็ก ๆ เงียบรับฟังกันอย่างตั้งใจ ก่อนสั่งเลิกแถว ครูส่องให้สัญญาณและนำเด็ก ๆ ร้องเพลงร่วมกัน

พรรคเหมือนพ่อ-แม่ คอยดูแลเอาใจใส่
ให้เราสุขกายใจ ได้ร่ำเรียนเขียนอ่านเป็น
พวกเราเคารพรัก เชื่อฟังพรรคทุกเช้าเย็น
กินนอนยามเรียนเล่น มีระเบียบวินัยดี
ใช้แรงแข็งขยัน พร้อมใจกันสามัคคี
ช่วยเหลือเพื่อนน้องพี่ ลูกที่ดีของพรรคเอย


ครูส่องไม่เคยลืมคืนนั้น และคำพูดทุกคำของครูตั้ง ทุกครั้งที่พระจันทร์เต็มดวง ครูก็จะคิดถึงและส่งใจถึงเด็ก ๆ ทุกคนของครู
สี่สิบกว่าปีมาแล้ว แต่ครูยังจำคืนนั้นไม่เคยลืม.

 

สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท.  โปรดคลิ๊ก  

 

 

whitebanner