บทความส่งเข้าประกวดชิงรางวัล “หนึ่งธันวา“ เรื่องที่ ๒ - บันทึกความทรงจำจากการต่อสู้ร่วมกับ พคท. หัวข้อ “สร้างและสรรค์ ฝันและใฝ่ สังคมแห่งอุดมการณ์" สี่วันในตำแหน่งผู้ชี้นำการเมือง
เขียนโดย สหายสุทธิ์
โรงเรียนการเมืองการทหารเขต 15 เขาค้อ เงียบเหงาลงไปถนัดใจ เมื่อนักเรียนการเมืองการทหารรุ่น 2 ราว 40 กว่าคนจบการศึกษาอบรมการเมืองการทหาร 4 เดือน จัดตั้งทยอยประกาศมอบหมายงานประจำหน่วยต่าง ๆ ทั่วฐานที่มั่นแก่นักเรียน บางคนได้เดินทางขึ้นไปช่วยเขต 10 ภูหินร่องกล้า แต่รุ่นนี้ส่วนใหญ่ได้ช่วยงานบนเขาค้อเป็นหลัก.
ใบหน้าทุกคนที่ได้รับภาระหน้าที่ใหม่ล้วนอิ่มเอิบยินดีที่จะได้ไปทำงานจริงบนฐานที่มั่น ต่อสู้กับศัตรูที่ทำร้ายจิตใจและร่างกาย ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทั้งหญิงและชายในเหตุการณ์ 6 ตุลา คนที่ได้ไปประจำกองร้อยทหารหลัก ดูจะดีใจกว่าเพื่อน กระโดดโลดเต้นที่จะมีโอกาสสู้รบกับศัตรู.
เราเข้าแถวจับมือส่งสหายครั้งแล้วครั้งเล่า อวยชัยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน รอฟังข่าวชัยชนะจากผลงานสหายในแนวหน้า บางคนที่สนิทสนมกันมากจะกอดกันตัวกลมพร้อมน้ำตาที่ไหลรื้นออกมา ใจหายที่ต้องอำลาสหายแม้จะอยู่บนฐานที่มั่นเขาค้อด้วยกัน แต่ไม่รู้จะได้พบกันอีกเมื่อไหร่ ไปเถิดสหายไปตามคำเรียกร้องต้องการของการปฏิวัติ.
เสียงเพลงส่งสหายให้กำลังใจ เพลงอำลาอาลัยดังขึ้นทั่วลานเอนกประสงค์ของโรงเรียน.
ในโรงเรียนยังเหลือนักเรียนอีกสิบกว่าคน ทุกคนไม่แน่ใจว่าจัดตั้งจะมอบหมายงานอะไรให้ทำ ส่วนจัดตั้งในเขตอาจไม่แน่ใจ ยังมีนักเรียนนักศึกษาขึ้นมาใหม่รอเข้าโรงเรียนการเมืองการทหารอีกราว 40 คน เขต 15 จะจัดการศึกษาอบรมให้เอง ก็กังวลว่าข้าวปลาอาหารจะไม่พอบำรุงเลี้ยง จะส่งขึ้นทางภูหินร่องกล้า ทางนั้นก็ไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมด้านอาหารการกินเช่นกัน จึงรอคำชี้แนะจากจัดตั้งชั้นบนต่อไป.
ถ้าจำเป็นต้องเปิดโรงเรียนการเมืองการทหารรุ่น 3 ย่อมต้องอาศัยคนที่ยังอยู่ประจำสำนักเป็นผู้ปฏิบัติงาน สหายหญิงหมู่พี่เลี้ยงภายใต้การนำของหัวหน้าหมู่คนเก่งและขยันอย่างสหายไหม ได้รับอนุญาตให้ลาพักกลับบ้าน หลังฝ่าฟันงานหนักตลอดช่วง 4 เดือนของการอบรม.
สหายอีกสามสี่คน จัดตั้งไม่แน่ใจว่าจัดตั้งชั้นบนจะเรียกตัวไปช่วยงานอะไรหรือไม่ จึงยังไม่กล้ามอบหมายงานประจำให้ทำ “พักรอไปก่อนนะสหาย” เสียงสหายเลาย่าบอกกับคนที่ยังรอรับมอบงาน.
หลังจากนั้นราวสองสัปดาห์ สหายภูมิ หนึ่งในทหารพิทักษ์โรงเรียนได้เดินมาบอกว่า “สหายเลาย่าขอเชิญสหายสุทธิ์ไปพบที่บ้านตอนนี้” อารมณ์ความรู้สึกตอนนั้นไม่รู้ว่าดีใจหรืออย่างไร งง ๆ นิดหน่อย พร้อมกับเดินตามสหายภูมิไปยังบ้านพักสหายนำข้างลานเอนกประสงค์.
“สหายสุทธิ์เป็นยังไงบ้าง พร้อมออกไปทำงานไหม” สหายเลาย่าทักขึ้นทันทีที่เห็นหน้า
“พร้อมครับ” ผมตอบหนักแน่นด้วยอารามดีใจ
“เดี๋ยวสหายวือ ประธานอำนาจรัฐเขาค้อ จะมารับสหายไปกองร้อยทหารท้องถิ่น ทำงานเป็นผู้ชี้นำกองร้อยทหารท้องถิ่นร่วมกับผู้กองเสริมฝ่ายทหาร สหายจะทำได้ไหม”
“ทำได้ครับ” ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำได้ และทำดีแค่ไหน แต่ความยินดีและความพร้อมเต็มร้อย.
ตำแหน่งผู้ชี้นำการเมืองกองร้อยทหารท้องถิ่น เป็นภาระหน้าที่สำคัญยิ่ง
กองร้อยทหารท้องถิ่นเป็นกำลังสำรองช่วยกองร้อยทหารหลัก ร่วมสู้รบ ส่งกำลังบำรุง และเตรียมเยาวชนจำนวนหนึ่งก่อนเข้าบรรจุในกองร้อยทหารหลัก การอบรมทางการเมืองการทหาร และระเบียบวินัยทางทหาร จึงเป็นภาระหน้าที่หลัก.
“ผมต้องทำอะไรบ้างครับ”
“ช่วงแรกนี้ สหายสุทธิ์ไปศึกษากุมสภาพในกองร้อยก่อน ทำความรู้จักทหาร เรียนรู้ สำรวจปัญหา ปรึกษากับผู้กองเสริม และสหายวือ หาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน”
“มีปัญหาอะไรต้องสนใจเป็นพิเศษไหมครับ”
“ไม่มีอะไรมาก สหายแก้ไขได้ ที่สำคัญคือสร้างขวัญและกำลังใจให้ทหารในกองร้อย”
ผมขอบคุณสหายเลาย่าที่มอบหมายงานสำคัญให้ จับมืออำลา แล้วเดินออกมาจัดบาโล (เป้) ที่มีเสื้อผ้าทหารอีก 1 ชุด ผ้าห่มบาง ๆ 1 ผืน ปืนอาก้า 47 พร้อมบิดง (กระติกน้ำดื่ม) พร้อมอยู่แล้ว.
สาย ๆ วันเดียวกัน สหายวือเดินทางมารับผมตามนัด.
เราจับมือทำความรู้จักกัน เตรียมจิตเตรียมใจพร้อมร่วมมือทำงานต่อไป กองร้อยทหารท้องถิ่นขึ้นกับอำนาจรัฐท้องถิ่น สหายวือจึงเท่ากับเป็นหัวหน้าโดยตรงของผม.
สหายวือวัยสามสิบปี เป็นคนตัวใหญ่ สูงราว 170 เซ็นติเมตร ผิวขาวผ่อง หน้าตาสมบูรณ์ แต่ไม่มีไขมันสะสม เดินนำหน้าผมด้วยความเร็วพอประมาณที่ผมจะเดินตามทัน.
เดินตามทางเล็ก ๆ ในแนวป่าราวสองชั่วโมง เราก็ถึงที่ตั้งกองร้อยทหารท้องถิ่น มีเรือนพักรวมราว 4 หลัง ห้องอาหารและครัวอีก 1 หลัง.
สภาพบรรยากาศของกองร้อยเงียบเหงาหงอยยิ่งกว่าโรงเรียนการเมืองการทหาร.
ผู้กองเสริมรอต้อนรับอยู่แล้ว เขาเป็นนายทหารที่รูปร่างสมาร์ทสมส่วน ผิวขาว หน้าตาหล่อเหลา ประกอบอาวุธประจำกายพร้อมสรรพ ทั้งแผงตลับลูกปืนอาก้า 3 แผงบนหน้าอก ลูกระเบิดชนิดด้าม 4 ลูกแขวนอยู่ข้างเอว อีกด้านหนึ่งเป็นบิดง แน่นอนปืนอาก้าที่ได้รับการชโลมน้ำมันส่องประกายจับตา.
เราจับมือทักทายและมองตาสำรวจซึ่งกันและกัน สหายวือแนะนำให้เรารู้จัก และหวังว่าเราจะทำงานร่วมกันได้ นำพากองร้อยทหารท้องถิ่นให้เข้มแข็ง เป็นกำลังสำรองที่ฝากความหวังไว้ได้.
อาหารเที่ยงพร้อมแล้ว เรารับประทานอาหารร่วมโต๊ะเดียวกัน ผู้กองเสริมเป็นคนพูดน้อย มีแต่สหายวือที่คอยพูดแนะนำสภาพการณ์ทั่วไป หลังอาหารผู้กองเสริมพาผมไปยังเรือนพักหลังใหญ่หลังหนึ่ง ให้ผมเลือกที่นอนแบบแคร่ไม้ไผ่ตามใจชอบ เรือนพักสะอาดสะอ้าน เหมือนกับจะไม่มีคนพักสักเท่าไร บรรยากาศเงียบสงบ แทบไม่พบทหารท้องถิ่นในเรือนพัก.
ผมนอนพักกลางวัน แล้วตื่นตามเสียงปลุกของนกหวีด สหายเสริมพาผมเดินสำรวจสภาพแวดล้อมรอบที่ตั้ง กองร้อยของเราตั้งอยู่บนที่ราบเชิงเขา มีห้วยน้ำเล็ก ๆ พอได้อาศัยดื่มกิน และหลบลูกปืนกลจากเฮลิคอปเตอร์ ไม่มีบังเกอร์ ไม่มีหลุมหลบภัย.
คืนแรกมีสหายหาญ เยาวชนน้อยจากที่ราบที่พี่สาวพาขึ้นมาบนฐานที่มั่น นอนกับผมบนเรือนพักหลังใหญ่ ส่วนสหายวือกลับไปนอนบ้าน และผู้กองเสริมลากลับบ้านเช่นกัน ในกองร้อยจึงมีทหารพักไม่เกินสิบคน เรานอนกันตั้งแต่ 2 ทุ่ม ทุกอย่างเงียบสงบ มีเพียงเสียงหริ่งหรีดเรไรร้องกล่อม ร่วมกับเสียงนกกลางคืนร้องแกวก ๆ.
เช้าวันที่สอง ผมได้ใช้เวลาพูดคุยทำความรู้จักกับสหายเยาวชนม้งที่สมัครเข้าเป็นทหารท้องถิ่น “เมื่อคืนพวกสหายไปนอนกันที่ไหน ไม่เห็นนอนในเรือนพัก” ผมถามด้วยความสงสัย
“พวกเราผูกเปลนอนข้างนอกครับ นอนเปลสบายดี อากาศไม่ร้อน” ผมสงสัยว่าช่วงนั้นเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ฤดูหนาว มันจะร้อนได้อย่างไร ?
เก็บคำถามไว้ถามผู้กองเสริม ท่านเล่าว่าเมื่อเดือนก่อน มีคนทรยศออกไปมอบตัว แล้วหวนกลับมายิงสังหารทหารในกองร้อยขณะนอนหลับ 5 คน รวมทั้งผู้หมวดชำนาญ ที่เป็นทหารดีเด่น ถือว่าเราเสียหายหนักมาก ทหารที่เหลือไม่กล้านอนในเรือนพัก หนีไปผูกเปลกระจัดกระจายรอบค่าย.
บรรดาครอบครัวทหาร เช่นพ่อแม่ภรรยาอกสั่นขวัญแขวน อ้างสารพัดเหตุผลขอคนกลับไปช่วยรอเกี่ยวข้าว หรือใช้แรงงานเลี้ยงหมู ตัดใบค้อมามุงหลังคาเรือนเลี้ยงหมู ฯลฯ กำลังทหารจากหมวดกว่า เหลือเพียงสิบคนเศษ ๆ ทหารที่เหลืออยู่ขาดขวัญและกำลังใจที่จะรับใช้การปฏิวัติต่อไป.
ช่วงนี้ศัตรูทำถนนเจาะลึกทะลวงเข้าใจกลางฐานที่มั่นที่เขาปู่เขาย่าไม่หยุด วันหนึ่งทำถนนได้หลายกิโล พวกเราได้แต่ยิงก่อกวน วางทุ่นระเบิด ซึ่งได้ผลไม่มาก เพราะศัตรูรู้ทันจึงถากถางป่าสองข้างทางกว้างออกไปกิโลเมตรกว่า.
การรวมศูนย์กำลังทหารโจมตีศัตรูได้ว่างเว้นมาระยะหนึ่ง เพราะทหารบ้านและทหารท้องถิ่นไม่พร้อมหนุนทหารหลักในการโจมตีค่ายศัตรู หลายครอบครัวคิดว่าปฏิวัติมา 10 ปี มีแต่ยากแค้นขาดแคลนข้าวของเครื่องใช้จำเป็น ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ได้ดีขึ้นเหมือนความเชื่อตอนเข้าร่วมปฏิวัติ โชคดีที่นักศึกษาเข้าร่วมการปฏิวัตินับร้อยคน ชาวบ้านจึงเกิดความคิดถอนคนของตนออกจากกองทหาร ให้นักศึกษาเข้ารับภาระทางการทหารแทน.
“แล้วเราจะแก้ปัญหากันยังไง”
“เรื่องนี้ เรายังไม่รู้จะทำอย่างไร เกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา เรารวมศูนย์กำลังหนุนช่วยการศึกษาอบรมของนักศึกษา ปัญหาอื่นพักไว้ก่อน สหายสุทธิ์คิดว่าควรจะทำอย่างไร”
สมองผมมึนตึ๊บไปหมดเมื่อได้รับรู้ปัญหาของกองร้อยทหารท้องถิ่น ซึ่งไม่ใช่ปัญหาเดียว แต่โยงปัญหาอื่น ๆ ทั่วฐานที่มั่น มิน่าล่ะ สหายเลาย่าถึงมอบหมายภารกิจนี้บนบ่าของผม.
“ขอผมกุมสภาพปัญหาให้ถ่องแท้ก่อน แล้วเรามาปรึกษาหารือร่วมกันกับสหายวือดีไหม”
“ดีครับ สหายสุทธิ์คิดยังไงเสนอมาได้ ผมยินดีทำทันที” ผู้กองให้คำมั่นอย่างหนักแน่น
วันที่สอง และสามผ่านไปกับการพูดคุยสำรวจปัญหาความคิดของทหารในกองร้อย รวมทั้งหน่วยพลาธิการ พอถึงยามค่ำคืน ผมออกมาเดินสำรวจรอบค่าย ทุกคนนอนหลับกันหมด ไม่มีการวางยามรักษาความปลอดภัย มิน่าคนทรยศจึงลอบเข้ามายิงสังหาร แล้วหลบหนีไปได้อย่างลอยนวล.
ปัญหาความปลอดภัย และระเบียบวินัยทหารเป็นเรื่องที่ตามมา จิตใจทหารตกต่ำ ขาดความฮึกเหิมที่จะปฏิบัติหน้าที่ และสู้รบกับศัตรู แต่ละวันฟังเสียงปืนใหญ่ 105 ของศัตรู ที่ยิงถล่มฐานที่มั่นอย่างหนัก ไม่รู้วันไหน ลูกปืนใหญ่จะยิงมาตกข้างค่ายพัก.
คืนวันที่สาม ผมยังนอนในเรือนพักร่วมกับสหายหาญสองคน ตกดึกราวตีสองตีสาม ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายข้างเรือนพัก ผมสะดุ้งตื่นและกลิ้งตัวลงจากแคร่พัก กำปืนอาก้าไว้แน่น อดทนรอฟังเสียงอึดใจหนึ่ง แล้วค่อยย่องออกจากประตูไปตามเสียงโวยวายที่ดังไม่หยุด.
“เกิดเรื่องอะไรครับ” ผมถามขึ้นเมื่อเห็นผู้คนสามสี่คนยืนอยู่เป็นกลุ่ม
“สหายยืนเยี่ยวรดใส่ผมเปียกไปหมด” ทหารประชาตอบพร้อมทั้งชี้มือไปยังสหายหาญที่ยืนงง ๆ อยู่ข้าง ๆ เหมือนกับยังไม่ตื่นนอนเต็มที่.
ผมถึงบางอ้อทันที พฤติกรรมของนักศึกษาเมื่อปวดฉี่ตอนกลางคืน เราจะเดินออกจากเรือนพักไม่เกินสิบกว่าก้าว แล้วยืนฉี่ ขณะที่ทหารม้งขุดหลุมนอนใกล้เรือนพัก ด้วยเป็นช่วงหน้าหนาว ขุดหลุมนอนบนดินจะอุ่นกว่านอนเปล.
“สหายหาญขอโทษสหายประชาหรือยัง เอาอย่างนี้ นี่ใกล้สว่างแล้ว สหายประชาเปลี่ยนเสื้อชุดใหม่ แล้วพรุ่งนี้เราช่วยกันซักเสื้อผ้า และผ้าห่มให้สหายประชาดีไหม สหายประชาเข้าไปนอนในเรือนพักสักคืน พรุ่งนี้ค่อยช่วยกันแก้ปัญหา ผมก็เสียใจและขอโทษแทนสหายหาญด้วยครับ”
เช้าวันที่สี่ เราช่วยกันซักเสื้อผ้า ผ้าห่ม ผ้ายางปูนอน ฯลฯ ให้สหายประชาตั้งแต่เช้า ตกตอนสาย สหายวือเดินมาแจ้งผมว่าสหายเลาย่าเรียกตัวผมกลับไปสำนักโรงเรียนการเมืองการทหาร ผมจึงฝากปัญหากับสหายวือ แล้วเป้บาโลขึ้นบ่ากลับโรงเรียน.
“เป็นไงบ้าง สหายสุทธิ์” สหายเลาย่าทักขึ้นทันทีที่เห็นผมปรากฎกาย
“ไม่เป็นไรครับ ยังสำรวจกุมสภาพปัญหาอยู่ครับ ยังไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง”
“เสียดายจัง จัดตั้งชั้นบนเรียกตัวสหายสุทธิ์ให้เดินทางขึ้นเหนือโดยด่วน พร้อมกับคณะนักเรียนใหม่ที่จะเดินทางไปเรียนที่จังหวัดน่าน เราจะถือโอกาสไปส่งคณะสหาย และลำเลียงอุปกรณ์สนับสนุนกลับมาจากลาว” สหายเลาย่าบอกอย่างละเอียด.
นั่นจึงเป็นการสิ้นสุดเสี้ยวชีวิตของการเป็นผู้ชี้นำกองร้อยทหารท้องถิ่น 4 วัน.
สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท. โปรดคลิ๊ก
หัวข้อ “สร้างและสรรค์ ฝันและใฝ่ สังคมแห่งอุดมการณ์