คารวาลัย สัมผัส พึ่งประดิษฐ์
โดย สหายวีระ
“หากขาดโดมเจ้าพระยาท่าพระจันทร์ ก็เหมือนขาดสัญลักษณ์พิทักษ์ธรรม”
ศิษย์เก่าดีเด่นของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ได้ปริญญา “ทนายของประชาชน” ได้อำลาชีวิตแห่งการรับใช้ประชาชนด้านกฎหมาย และผดุงคุณธรรมในสังคมไทย.
เด็กชายลูกชาวนาจากพิษณุโลก ได้มีโอกาสเข้าเรียนหนังสือในกรุงเทพด้วยการอนุเคราะห์ของพี่ชาย เรียนเตรียมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง รุ่น 7 ช่วงปี 2487 - 2488 และเข้าสู่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมืองในปี 2490.
ธรรมศาสตร์ในเวลานั้นเป็นมหาวิทยาลัยเปิด ตามแนวคิดของผู้ประศาสน์การคืออาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ผู้อุปมาอุปไมยธรรมศาสตร์ดุจบ่อน้ำ ที่ปวงชนเข้ามาตักดื่มกินปัญญาความรู้ ตามสิทธิและโอกาสที่ราษฎรพึงมีพึ่งได้ เพื่อร่วมพัฒนาระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเพิ่งตั้งไข่ในปี 2475.
ทศวรรษ 2490 เป็นช่วงที่นักศึกษาและอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมืองต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อพิทักษ์มหาวิทยาลัย จากเงื้อมมือของระบอบเผด็จการแปลก พิบูลสงคราม ที่ต้องการขจัดหอกข้างเอวที่ทิ่มแทงเผด็จการ.
ลุงสัมผัส พึ่งประดิษฐื เป็นหัวหอกคนหนึ่งในการต่อต้านเผด็จการทหาร เขาเป็นคนแรก ๆ ที่ทราบข่าวว่าทหารเสนอขอซื้อพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ด้วยเงิน 5 ล้านบาท ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนักศึกษาธรรมศาสตร์ ลุงสัมผัสได้รีบไปแจ้งข่าวให้คณะกรรมการนักศึกษาได้รับทราบ และเริ่มรณรงค์คัดค้านการซื้อพื้นที่ธรรมศาสตร์ จนเผด็จการทหารต้องล้มเลิกความคิดนี้ไป.
หลังสำเร็จการศึกษา ลุงสัมผัสถูกจับกุมด้วยข้อหา “กบฏสันติภาพ” ร่วมกับนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยนับร้อยคน ถูกคุมขังอยู่ 3 ปีกว่า โดยไม่มีข้อกล่าวหาที่มีมูล สุดท้ายได้รับการปล่อยตัว.
ลุงสัมผัสเข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเมื่อไหร่ ไม่ปรากฏชัด แน่นอน ช่วงทศวรรษ 2490 เป็นช่วงที่นักศึกษาธรรมศาสตร์ตื่นตัวทางการเมืองและต่อสู้กับเผด็จการทหารอย่างไม่ลดละ เป็นเงื่อนไขสำคัญหนึ่งของการขยายสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ไทย ผู้นำหลายคนเติบโตในช่วงนี้ เช่น เปลื้อง วรรณศรี, ไวฑูรย์ สินธุวณิชย์, สุวิทย์ เผดิมชิต, อาทร พุทธิสมบูรณ์ เป็นต้น.
เมื่อสฤษดิ์ทำรัฐประหารยึดอำนาจ ตั้งตนเป็นทรราชย์ในปี 2501 กวาดจับบุคคลฝ่ายก้าวหน้า โดยเฉพาะด้านสื่อสารมวลชนไปเป็นจำนวนร้อยกว่าคน โชคดีที่ลุงสัมผัสหลบพ้นการจับกุม และเริ่มเข้าทำงานมวลชนในแถบราชบุรี, เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์.
การประชุมสมัชชา 3 ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2504 ลุงสัมผัสได้รับเลือกเป็นกรรมการกลางคนหนึ่ง และทำงานหนังสือพิมพ์ฝ่ายก้าวหน้าในเวลานั้น.
ปี 2510 เมื่อผิน บัวอ่อน กรมการเมืองผู้รับผิดชอบงานเขตราชบุรี, เพชรบุรี และประจวบฯถูกจับ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้มอบหมายลุงสัมผัส เป็นผู้รับผิดชอบแทน เพราะลุงมีพื้นฐานการเคลื่อนไหวในเขตดังกล่าวอยู่แล้ว.
น่าเสียดายที่ลุงสัมผัสรับผิดชอบงานได้เพียง 2 ปี ปี 2512 ลุงถูกจับ รอบนี้ถูกขังคุกอยู่ 2 ปีเศษ จึงได้รับการปล่อยตัว ไม่มีหลักฐานเอาผิดเช่นเคย.
ต่อจากนั้น ลุงสัมผัสได้ทำงานเป็นทนายรับใช้ประชาชนผู้เดือดร้อนจากคดีความต่าง ๆ รวมทั้งเป็นทนายร่วมกับพี่ทองใบ ทองเปาด์ ในการช่วยเหลือนักปฏิวัติและแนวร่วมฝ่ายก้าวหน้า ที่โดนจับกุมคุมขังโดนกล่าวหาด้วยคดีที่ไร้หลักฐานไร้ความเป็นธรรม.
จนมาถึงรุ่นอาจารย์สุลักษณ์ ศิวลักษณ์ ถูกจับกุมคุมขัง ลุงสัมผัสยังได้ไปช่วยเป็นทนายแก้ต่างให้อาจารย์สุลักษณ์ จนอาจารย์สุลักษณ์ขนานนามให้เป็น “ทนายของประชาชน”.
ช่วงชีวิต 98 ปี และนับจากวันสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลุงสัมผัสอุทิศตนเป็นทนายความผู้ช่วยเหลือประชาชนคนยากไร้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ตลอดจนชาวคอมมิวนิสต์ และแนวร่วมฝ่ายก้าวหน้า อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย.
คำสดุดีทั้งหลายทั้งปวง ไม่อาจเทียบได้กับผลงานการอุทิศตนของลุงสัมผัส พึ่งประดิษฐ์.
นี่คือแบบอย่างของศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ และสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย.
ขอคารวะปฏิวัติด้วยความอาลัยรัก
สนใจสมัครสมาชิกผู้มีส่วนร่วมกับสถานีข่าว สปท. โปรดคลิ๊ก
รำ